ภาพสิทธิบัตรที่เห็นอยู่นี้เป็นของรถ SUV ทรงท้ายลาดปริศนา ที่อาจใช้ชื่อ Crown ในตำนานของค่ายสามห่วงอย่าง Toyota ซึ่งแต่เดิมเป็นรถหรูตัวถังซีดานมาตั้งแต่ปี 1955 แต่ด้วยกระแสความนิยมรถ SUV ทำให้ชื่อ Crown อาจไม่ได้มีแต่ตัวถังซีดานอีกต่อไป

อีกทั้งการทำตลาดของ Crown รุ่นปัจจุบัน ถูกจำกัดไว้ที่ประเทศบ้านเกิดอย่างญี่ปุ่น แต่ชื่อ Crown ได้ถูกนำไปใช้ในตลาดประเทศจีนก่อนหน้านี้กับรถ SUV 3 แถว คันโต อย่าง Crown Kluger ที่ใช้ตัวรถรุ่น Highlander จากตลาดอเมริกาเหนือ มาเปลี่ยนกระจังหน้าใช้เป็นสไตล์ Crown และรถตู้หรูยอดนิยมอย่าง Crown Vellfire ซึ่งนำ Vellfire มาเพิ่มความหรูด้านหน้าเช่นเดียวกัน

 

การขยายตลาดให้ครอบคลุมตัวถังหลากหลายขึ้นภายใต้แบรนด์ Crown ยังคงไม่หยุดเพียงเท่านี้ และไม่ได้ปิดกั้นเพียงประเทศจีนและญี่ปุ่น เนื่องจากแหล่งข่าวรายงานว่า Crown SUV รุ่นใหม่นี้ อาจทำตลาดในออสเตรเลียในครั้ง หลังจาก Toyota ยกเลิกขาย Crown ตัวถังซีดานต้นฉบับ ในตลาดออสเตรเลียตั้งแต่ปี 1988

มีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า Crown ในประเทศออสเตรเลียเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เป็นการยืนยันถึงการกลับมาของรถเรือธงของ Toyota ที่มีคุณภาพเทียบชั้น Lexus ได้อย่างไม่เขินอาย

 

ความพยายามของ Toyota ครั้งนี้ ทำให้คาดการณ์ได้ถึงการนำ Crown เข้าสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะตลาดยุโรป Toyota ต้องการที่จะสร้างรถ SUV ทรง Coupe ท้ายลาด เพื่อลงสู้ศึกกับบรรดาคู่แข่งจากเยอรมันที่กินตลาดส่วนนี้มาเกินทศวรรษแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ทางแหล่งข่าวอ้างว่า Toyota อาจใช้ชื่อ Crown Cross ดั่งเช่นรถตระกูลเก่าแก่อย่าง Corolla ที่ได้เปิดตัวเป็น Global model ไปก่อนหน้านี้ ภายใต้ชื่อ Corolla Cross ตัวรถจะมีความยาวไม่น้อยกว่า 4.9 เมตร ซึ่งเทียบเคียงได้กับ BMW X6 โดยมีความกว้างตัวถังแคบกว่าเล็กน้อย

 

ทางด้านขุมพลัง Best Car สื่อยานยนต์ใหญ่แดนปลาดิบได้ให้ข้อมูลไว้ว่า เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 4 สูบ พร้อมระบบไฮบริดรุ่นล่าสุดจะเป็นขุมพลังพื้นฐาน และอาจมีทางเลือกขุมพลังเบนซิน 2.4 ลิตร เทอร์โบ ซึ่ง Toyota ได้เปิดตัวครั้งแรกใน Lexus NX 350 รุ่นล่าสุด เนื่องจากใช้พื้นฐาน TNGA-K platform ร่วมกัน พร้อมทางเลือกระบบขับเคลื่อนสองล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ และ Plug-in hybrid

Toyota Crown ตัวถัง SUV ทรงท้ายลาด Coupe เตรียมเปิดตัวในขนาดตัวถังระหว่าง Kluger และ Prado แต่จะมาพร้อมความพรีเมียมมากกว่า

ที่มา: Drive.com.au