Chris Nelson ตัวแทนตำรวจจากหน่วยงานอาชญากรรม กองตำรวจเขต Gloucestershire ทางตะวันตกของอังกฤษ ได้เผยถึงปัญหาของการใช้งานรถ EV ภายในหน่วยงานไล่ล่าอาชญากร โดย Fleet รถ EV ในหน่วยงานดังกล่าวคิดเป็นอัตราส่วนขั้นต่ำ 21% ของรถยนต์จำนวน 435 คัน ซึ่งประกอบไปด้วย Nissan Leaf จำนวน 66 คัน และ Nissan NV200 รถเพื่อการพาณิชย์ 9 คัน

ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หน่วยงานนี้ต้องเผชิญปัญหาจากการใช้รถ EV เหล่านี้ ตั้งแต่การขับรถวนหาที่ชาร์จสาธารณะ  ระดับพลังงานในแบตเตอรี่ลดลงจนไม่สามารถเดินทางได้ตามระยะที่ต้องการ ทำให้ท้ายที่สุดต้องเปลี่ยนไปใช้รถยนต์คันอื่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในแทน

Chris Nelson ยังเผยอีกว่า ”เมื่อพิจารณาถึงเป้าหมายและวัตถุประสงค์หลักของหน่วยงานไล่ล่าอาชญากรแล้ว ต้องให้ความสำคัญกับความรวดเร็วและความพร้อมของยานพาหนะเป็นอันดับแรกๆ มากกว่าการช่วยลดมลพิษ”

 

สาเหตุหนึ่งของปัญหานี้ เกิดจากความสามารถและประสิทธิภาพของ Fleet รถ EV ไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในสภาวะจริงได้ รวมทั้งทำได้ต่ำกว่าความคาดหมายของหน่วยงานพอสมควร เป็นเรื่องปกติที่หน่วยงานเหล่านี้ต้องการยานพาหนะที่ไว้ใจได้ในยามฉุกเฉิน ไม่ควรเสี่ยงกับการที่ระดับเชื้อเพลิงหรือพลังงานเหลือน้อยจนสร้างความกังวลระหว่างปฏิบัติงาน

 

ในขณะที่รัฐบาลอังกฤษเตรียมที่จะยกเลิกการจำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในก่อนปี 2030 นี้ นั่นหมายความว่าทางกรมตำรวจต้องเตรียมการรับมือกับ Fleet รถยนต์ในอนาคตที่อยู่ในรูปแบบพลังงานไฟฟ้า 100% เนื่องจากพวกเขาต้องติดตั้งอุปกรณ์พิเศษเพื่อการใช้งานจำนวนมาก จนทำให้น้ำหนักที่เพิ่มมานี้ส่งผลต่อประสิทธิภาพและระยะทางต่อการชาร์จ 1 ครั้งของรถ EV ได้ นี่จึงเป็นสาเหตุที่หน่วยงานตำรวจประมาณ 10 หน่วยในสหราชอาณาจักร ยังคงไม่ไว้ใจกับ Fleet รถ EV เหล่านี้

ที่มา: CarScoops