XPeng เป็นอีกผู้ผลิตรถ EV จากจีนที่ทยอยเปิดตัวรถใหม่อย่างต่อเนื่องและล่าสุดกับ SUV ขนาด Mid-size ที่จะมาต่อกรกับ NIO ES6 NIO ES7 และ Li Auto One มาในชื่อว่า G9 ที่ได้เปิดตัวไปตั้งแต่ปลายปี 2021 ที่งาน Guangzhou Auto Show แต่ยังไม่มีรายละเอียดทางเทคนิคใดๆ หลุดออกมา จนกระทั่งข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงอุตสาหกรรมและ IT ของประเทศจีน ได้หลุดข้อมูลตัวรถบางส่วนก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2022 นี้

 

มิติตัวถัง

  • ความยาว: 4,891 มม.
  • ความกว้าง: 1,997 มม.
  • ความสูง: 1,680 มม.
  • ฐานล้อ: 2,998 มม.

 

Xpeng G9 จะใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนที่มาใน 2 รูปแบบความแรง ได้แก่รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง RWD ใช้มอเตอร์ติดตั้งที่เพลาล้อหลังให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า (PS) ในขณะที่รุ่น Performance จะเพิ่มมอเตอร์ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า ให้กำลังสูงสุดรวมถึง 551 แรงม้า (PS) โดยทั้ง 2 รุ่นสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 200 กม./ชม.

ในขณะที่แบตเตอรี่มีให้เลือกเพียงแบบเดียว ซึ่งใช้เป็นประเภท NMC ผลิตจากบริษัทลูกที่ก่อตั้งโดย Xpeng Motors อย่างGuangzhou Chengxing Zhidong Motors Technology มาพร้อมความจุ 96 kWh ที่สำคัญยังติดตั้งเทคโนโลยี XPower 3.0 ที่ทำให้แบตเตอรี่มีประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้สถาปัตยกรรม 800V high voltage Silicon Carbide (SiC) system และยังสามารถชาร์จความเร็วสูงได้ที่กำลังไฟสูงสุดถึง 480kW ที่จะทำให้ Xpeng G9 วิ่งได้ไกลถึง 200 กิโลเมตร จากการชาร์จเพียง 5 นาที

(XPeng G9 RWD)

(XPeng G9 Performance)

ทางด้านระยะทางวิ่งสูงสุดต่อ 1 การชาร์จ Xpeng ได้เคลมตัวเลขสำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง RWD ไว้ที่ 702 กิโลเมตร ในขณะที่รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Performance ทำได้ที่ 650 กิโลเมตร  อย่างไรก็ตามตัวเลขทั้ง 2 นี้ ไม่ได้รับการยืนยันว่าทดสอบที่มาตรฐานใด คงต้องรอการยืนยันจาก Xpeng อย่างเป็นทางการอีกครั้ง

 

Xpeng ได้ให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ว่ากำหนดการเปิดรับจองจะเริ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม 2022 นี้ โดยจะพร้อมส่งมอบในเดือนถัดมา ในขณะที่ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะเริ่มที่ประมาณ 500,000 หยวน หรือประมาณ 2,677,440 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่สูงพอสมควร จนจะต้องเข้าไปสู้กับรถ SUV สัญชาติอเมริกาอย่าง Cadillac Lyriq หรือแม้แต่ SUV ร่วมสัญชาติขนาดใหญ่อย่าง GAC Aion LX และ NIO ES7 ซึ่งถือว่าเป็นช่วงราคาที่แข่งขันกันอย่างดุเดือดสำหรับ SUV ขุมพลังไฟฟ้าขนาดกลางในตลาดจีน

ที่มา: carnewschina