ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการขยับขยายตามนโยบายต่างๆ ของค่ายรถยนต์ที่ผันตัว และปรับตัวเพื่อรองรับ ยุคของขุมพลังไฟฟ้าหลากรูปแบบ เมื่อพิจารณายอดขายรวมทั่วโลกของรถที่พ่วงขุมพลังไฟฟ้า ทั้งแบบ Plug-in hybrid และ Battery Electric Vehicle (BEV) จึงได้พบข้อมูลที่น่าสนใจว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 มีจำนวนรถ Plug-in hybrid จดทะเบียนไปแล้ว มากกว่า 4.1 ล้านคัน ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2021 ที่ผ่านมา มีเพียงจำนวน 2.5 ล้านคัน

เมื่อพิจารณาแยกย่อยตามแต่ละผู้ผลิตรถยนต์แล้วจะพบว่ามีบางราย สามารถขายรถยนต์ Plug-in hybrid ได้มากกว่าปีที่แล้วอย่างน่าตกใจ

โดยเราสามารถแบ่งยอดขายออกได้เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นรถที่เสียบปลั๊กชาร์จไฟได้ซึ่งจะประกอบไปด้วย รถยนต์พลังงานแบตเตอรี่ BEV และรถยนต์ Plug-in hybrid ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้มีผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากแดนมังกรได้ก้าวเข้ามาเป็นจ่าฝูงของยอดค่ายรถยนต์กลุ่มนี้ซึ่งก็คือ BYD

 

BYD ได้ขายรถยนต์ที่สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้ไปจำนวนกว่า 640,000 คัน และมีส่วนแบ่งทางการตลาด 15.4% ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วน 2.6 เท่าของปีที่แล้ว ทางฝั่ง Tesla ที่มียอดผลิตรถ ที่สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้เป็นจ่าฝูงมาตลอดก็ได้เสียแชมป์ให้กับ BYD ในที่สุด ซึ่งในช่วงเดือนที่ BYD แซง Tesla นั้น ก็ผ่านครึ่งหนึ่งของ 6 เดือนแรกในปี 2022 เข้าไปเสียแล้ว โดยในเดือนมีนา BYD ยังมียอดตามติด Tesla อยู่ที่ 25,000 คัน

 

เมื่อจำแนก 5 อันดับ ของผู้ผลิตรถยนต์ที่สร้างยอดขายจากรถกลุ่มเสียบปลั๊กชาร์จไฟ จะสามารถแบ่งได้ดังนี้

  1. BYD: 640,748 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 15.4% (ปี 2021 5.9%)
  2. Tesla: 564,873 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 13.6% (ปี 2021 15.2%)
  3. SAIC (incl. SAIC-GM-Wuling): 358,040 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 8.6% (ปี 2021 11.1%)
  4. Volkswagen Group: 331,743 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 8.0% (ปี 2021 13.4%)
  5. Geely-Volvo: 231,232 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 5.6%

คิดเป็นยอดรวม: 2,126,636 คัน (คิดเป็นสัดส่วน 51.1%)

สำหรับยอดรวมของค่ายที่เหลือ: 2,034,487 คัน (คิดเป็นสัดส่วน 48.9%)

เมื่อรวมทั้งตลาด: 4,161,123 คัน

 

อย่างไรก็ตามอันดับที่ 3 ถึงอันดับที่ 5 ถึงแม้ว่าจะเป็นรอง BYD และ Tesla แต่ก็มีอัตราการเติบโตเมื่อเทียบกับปี 2021 อย่างก้าวกระโดดกันถ้วนหน้า ทั้งนี้เนื่องจากมีการร่วมทุนพัฒนาและวิจัยระหว่างผู้ผลิตรถยนต์ผู้ผลิตชิ้นส่วนแบตเตอรี่และบริษัทสตาร์ทอัพต่างๆ มากมายทั่วโลกทำให้เป็นแรงผลักดัน ทั้งทางภาคอุตสาหกรรมและความเชื่อถือทางธุรกิจ จนกระทั่งลูกค้าหันมาสนใจเลือกซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากันมากขึ้นกว่าปี 2021 อยากเห็นได้ชัด

 

หากพิจารณายอดขายกลุ่มที่ 2 เป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่อย่างเดียว จะพบว่าจ่าฝูงยังคงตกเป็นของ Tesla ซึ่งขายรถยนต์ไปรวมกว่ารวมกว่า 564,000 คัน และถึงแม้ตัวเลขจะดูเหมือนมากเมื่อเทียบกับค่ายอื่น แต่นับว่าเป็นอัตราส่วนที่ลดลงถึง 19% เนื่องจาก Tesla ได้รับผลกระทบจากโรงงานในประเทศจีนรวมไปถึง การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์จากผู้ผลิตชิ้นส่วนจนทำให้การผลิตของ Tesla นั้นผิดแผนไปอย่างสิ้นเชิงในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2022 นี้

 

เมื่อจำแนก 5 อันดับ ของผู้ผลิตรถยนต์ที่สร้างยอดขายจากรถยนต์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่อย่างเดียว จะสามารถแบ่งได้ดังนี้

  1. Tesla: 564,873 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 19% (ปี 2021 22.7%)
  2. BYD: 326,236 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 11% (ปี 2021 5.5%)
  3. SAIC (incl. SAIC-GM-Wuling): 321,289 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 10.8% (ปี 2021 14.5%)
  4. Volkswagen Group: 216,004 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 7.3% (ปี 2021 10.7%)
  5. Hyundai Motor Group: 167,305 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 5.6%

คิดเป็นยอดรวม: 1,595,707 (คิดเป็นสัดส่วน 53%)

สำหรับยอดรวมของค่ายที่เหลือ: about 1.4 million (คิดเป็นสัดส่วน 47%)

เมื่อรวมทั้งตลาด: ประมาณ 3 ล้านคัน

สำหรับค่ายจ่าฝูงของกลุ่มก่อนหน้านี้อย่าง BYD ก็ขายรถที่เป็นพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ 100% ไปได้มากถึง 326,236 คันโดย ทำให้มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 5.5% ในปี 2021 เป็น 11% ในครึ่งปีแรกของปี 2022 นี้ ทำให้ BYD แซงหน้าเครือ SAIC ซึ่งมีผลิตภัณฑ์รถยนต์พลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มากมายตั้งแต่รถขนาดจิ๋วไปจนถึงรถ SUV ขนาดใหญ่ และเป็นการแสดงความสามารถในการเอาชนะคู่แข่งจากแบรนด์ ทั่วโลกอย่าง เช่น Volkswagen Group และ Hyundai Motor Group

ซึ่งทั้ง SAIC และ Volkswagen Group มีส่วนแบ่งทางการตลาดลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2021 เนื่องจากได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันกับ Tesla และกำลังหาทางแก้ไขปัญหา จนถึงปัจจุบันนี้

สำหรับอันดับที่ 6 ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดใกล้เคียงกับอันดับที่ 5 เรียกได้ว่าตามกันมาติดๆ ได้แก่ Geely-Volvo ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดครึ่งปีแรก 2022 ถึง 4.3% ต้องจับตามองต่อไปว่า ในครึ่งปีหลังของปี 2022 บรรดาผู้ผลิตรถยนต์เหล่านี้จะสามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนได้มากน้อยเพียงใดเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับแผนการผลิตและแผนการรุกตลาดรถยนต์ พลังงานไฟฟ้าทั้งแบบแบตเตอรี่ 100 %และ Plug-in hybrid

ที่มา: Insideevs , Cleantechnica