เชื่อว่าทุกท่านอาจคุ้นชินกับชื่อ Subaru XV มากพอสมควร เนื่องจาก Subaru XV ทำตลาดในประเทศไทยเกือบจะครบ 10 ปีแล้ว แต่สำหรับชื่อ Subaru Crosstrek นั้น เมื่อได้ยินแล้วอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชินสักเท่าไหร่ เอาเป็นว่ามันคืออีกชื่อหนึ่งของ Subaru XV นั่นแหละครับ เพื่อลดความสับสน Subaru จึงตัดสินใจกำหนดให้ใช้ชื่อเดียวไปเสียเลย ต่อจากนี้จึงอาจจะไม่มีชื่อ Subaru XV อีกแล้ว ทั้งนี้คงต้องรอติดตามชมกันต่อไป

Subaru Crosstrek  ถูกสร้างขึ้นบน Subaru Global Platform ที่ถูกปรับปรุงเพิ่มเติม โดยคานกันชนหน้าถูกปรับให้มีขนาดใหญ่ และยื่นไปทางด้านหน้ามากขึ้น และมีการเพิ่ม collision sub-frame เข้าไปยังโครงสร้างตัวถัง เพื่อซับแรงกระแทกให้ได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังนำ Know-how เรื่อง Full-inner-frame Construction ที่เพิ่งจะถูกนำมาใช้ใน Levorg และ WRX S4 มาใช้กับ Subaru Crosstrek ใหม่ อีกด้วย อนึ่ง Full-inner-frame Construction นั้นคือการประกอบเฟรมโครงสร้างทั้งหมดอย่างแข็งแรงทีเดียว ต่างจากแบบเดิมที่ตัวรถจะถูกสร้างขึ้นโดยการประกอบส่วนบน และส่วนล่างแยกกัน แล้วค่อยนำมาเชื่อมประกอบเข้าด้วยกันภายหลัง ซึ่ง Full-inner-frame Construction นั้นจะช่วยให้ตัวถังบิดตัวน้อยลง  และลดน้ำหนักของตัวรถโดยรวม

มิติตัวถัง
Dimensions

  • ยาว : 4,480 มม.
  • กว้าง : 1,800 มม.
  • สูง : 1,580 มม.
  • ระยะฐานล้อ : 2,670 มม.
  • ระยะ Ground clearance : 200 มม.
  • น้ำหนักตัวรถ 1540 – 1620 กก.
  • ความจุถังน้ำมัน 48 ลิตร

เครื่องยนต์ และระบบส่งกำลัง
Engine and Transmission 

e-BOXER

เครื่องยนต์เบนซิน Boxer 4 สูบ DOHC 16 วาล์ 2.0 ลิตร 1995 ซีซี กระบอกสูบ X ระยะช่วงชัก: 84.0 × 90 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.5 ฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงตรงสู่ห้องเผาไหม้ direct injection แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,600 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 194 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที พ่วง จับคู่เกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา Active Torque Split AWD system

เครื่องยนต์ทำงานร่วมกับระบบ e-BOXER มอเตอร์แบบ Permanent magnet AC synchronous ซึ่งให้แรงม้าสูงสุด 16.7 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 66 นิวตันเมตร เก็บพลังงานในแบตเตอรี่ Lithium Ion battery (13.5 kw/118.4V/4.8Ah)

ระบบบังคับเลี้ยว
Steering

  • Rack and pinion ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า Dual-pinion Electric Power วงเลี้ยวแคบสุด 5.4 เมตร

ช่วงล่าง
Suspension 

  • ด้านหน้า : อิสระ Independent strut
  • ด่นหลัง : อิสระ independent double-wishbone

ระบบห้ามล้อ
Brake

ระบบเสริมแรงเบรกด้วยไฟฟ้า Electric Brake Booster

  • ด้านหน้า : จานเบรกแบบมีรูระบายอากาศ
  • ด้านหลัง : จานเบรกแบบมีรูระบายอากาศ

ภายนอก
Exterior

ด้านหน้ารถปรับตำแหน่งฝากระโปรง รวมถึงตำแหน่งเส้นสายให้สูงกว่าเดิม เพื่อเพิ่มความรู้สึกแข็งแกร่ง ถัดลงมาเป็นไฟหน้า Full LED ซึ่งมีเส้นสายเชื่อมต่อกับกระจังหน้า ซึ่งมาพร้อมฟังก์ชั่น LED Cornering Light ครั้งแรกของ Subaru ที่ทำงานเมื่อหักเลี้ยวในเวลากลางคืนเพื่อเพิ่มความสามารถในการมองเห็น

บริเวณด้านข้างของตัวรถ พลาสติกซุ้มล้อถูกปรับให้มีความหนาขึ้นกว่าเดิมสอดรับกับล้ออัลลอยซึ่งมีขนาด 18 นิ้ว ซึ่งใหญ่ขึ้นกว่า Subaru XV รุ่นเดิม และรัดด้วยยางขนาด 225/55R18 กระจกบานหลังปรับปรุงให้มีความลาดเอียงมากขึ้น เพื่อให้รถดูมีความแน่นหนา ทั้งนี้ตัวถังภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 9 สี

ภายใน
Interior

คอนโซลหน้าถูกออกแบบแบบ multi-layered structure พร้อมการเลือกใช้วัสดุตกแต่งแบบ multi-material โดยรวมหน้าจะคล้ายกับ Subaru XV รุ่นเดิม แต่แตกต่างตรงที่หน้าจอกลางถูกเพิ่มขนาดเป็น 11.6 นิ้ว ตามสมัยนิยม เบาะนั่งภายในสำหรับตลาดญี่ปุ่นมาพร้อมกับวัสดุหุ้มเบาะ 3 แบบ ได้แก่ หุ้มด้วยผ้า fabric หุ้มด้วยผ้า tricot และหุ้มด้วยหนัง

ตัวเบาะนั่งถูกออกแบบใหม่ เพิ่มการรองรับช่วงกระดูกเชิงกราน (Pelvis) เพื่อลดแรงสั่นสะเทือนที่จะถูกส่งขึ้นไปยังส่วนบนของร่างกาย เมื่อเข้าโค้ง หรือขับบนถนนขรุขระ นอกจากนั้นแล้วยังมีการปรับปรุงจุดยึดเบาะ ให้ยึดกับตัวรถโดยตรง กล่าวคือรางเบาะจะถูกยึดกับโครงสร้างตัวถังโดยตรง อีกทั้งยังมีการปรับปรุงเรื่องการเก็บเสียงรบกวนจากภายนอกรถ เช่นการเพิ่มการใช้วัสดุซับเสียงแบบ High-attenuation Mastic ที่โครงสร้างหลังคา เพื่อลดแรงสั้นสะเทือนจากหลังคา 

บริเวณธรณีประตู และฝากระโปรงท้าย มีพลาสติดสีดำพร้อมกลัดลวดลายอันได้รับแรงบันดาลใจมาจากภูเขา โดยทาง Subaru กล่าวว่านอกจากจะช่วยป้องกันรอยขีดข่วนแล้ว ยังชวนให้นึกถึงกิจกรรมที่ผู้ใช้งานสามารถทำกับ Subaru Crosstrek อีกด้วย

ระบบความปลอดภัย
Safety

  •  ระบบ EyeSight แบบใหม่
    • กล้อง stereo camera ถูกออกแบบใหม่ ให้มีองศาการตรวจจับวัตถุที่กว้างมากขึ้นกว่าเดิมถึงสองเท่า รวมถึงได้รับการปรับปรุง Software ให้มีความแม่นยำมากขึ้น
    • กล้อง wide-angle monocular camera สำหรับระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ถูกปรับปรุงใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับมอเตอร์ไซค์ รวมถึงคนเดินถนน
    • เพิ่ม Radar ด้านข้างบริเวณหน้ารถ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุกับ รถยนต์ รถจักยาน รวมถึงคนเดินถนน บริเวณทางแยก 
    • กล้องรอบคัน 3D top-down view แสดงผลได้ดียิ่งขึ้นผ่านหน้าจอกลางที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น
  • Electric Brake Booster
    • ช่วยเสริมแรงเบรกด้วยไฟฟ้า และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ pre-collision braking ให้ตอบสนองเร็วขึ้น รวมถึงช่วยการทำงานของระบบ all-speed adaptive cruise control ให้เบรกเร็วขึ้นในสถานการร์ฉุกเฉิน เช่น เมื่อโดยรถยนต์คันอื่นปาดเข้ามาในเลนกระทันหัน หรือเมื่อโดนจักรยานตัดหน้า