Stellantis หรือหัวเรือใหญ่ที่ควบรวมกิจการกลุ่ม PSA และ FCA เข้าไว้ด้วยกัน เมื่อปี 2021 เป็นปรากฏการณ์การควบรวมครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ยานยนต์ เนื่องจากทำให้ แบรนด์รถยนต์จำนวนทั้งหมด 14 ยี่ห้อ เข้ามาร่วมชายคาเดียวกัน ได้ตัดสินใจปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในส่วนของจำนวนพนักงานประจำ ซึ่งล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลงจนถึงขั้นมีการจ้างพนักงานออก เพื่อปรับลดรายจ่ายของบริษัท สอดรับกับกลยุทธ์การรุกตลาดกลุ่มขุมพลังไฟฟ้าอย่างเต็มพิกัด ตามแหล่งข่าวท้องถิ่น CNBC

เมื่อพิจารณาจำนวนพนักงานประจำที่ทาง Stellantis ถือไว้อยู่ในมือ ในภูมิภาคสหรัฐอเมริกา ทั้งหมดมีจำนวนกว่า 13,000 อัตรา แต่ทาง Stellantis ก็ยังไม่ได้เปิดเผยจำนวนพนักงาน ที่จะถูกยื่นข้อเสนอจ้างออกในครั้งนี้

 

ตามรายงานจากสำนักข่าวท้องถิ่น ได้ให้รายละเอียดเงื่อนไขของพนักงานที่จะได้รับข้อเสนอการจ้างออกว่า เป็นพนักงานประจำที่มีอายุอย่างน้อย 55 ปีและได้มีระยะเวลาทำงานกับบริษัท ไม่น้อยกว่า 10 ปี และอยู่ในเงื่อนไขที่จะได้รับเงินเกษียณสำหรับการจ้างออกครั้งนี้ โดยทางบริษัทได้ยื่นข้อเสนอให้กับพนักงานกลุ่มดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และให้เวลาตัดสินใจภายในวันที่ 5 ธันวาคม 2022 นี้

ตัวแทนจาก Stellantis ที่ไม่ประสงค์จะออกนาม ได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ว่า “ด้วยเป้าหมายของบริษัท ที่มุ่งไปสู่การเปลี่ยนแปลง การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้า ปล่อยมลภาวะต่ำ และมีการใช้ทรัพยากรรวมไปถึงพลังงานสำหรับกระบวนการผลิตรถยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อที่จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ในระดับสากล จึงต้องมีการทบทวน ปริมาณทรัพยากรบุคคลให้เหมาะสมกับเทคโนโลยีในวันนี้และวันข้างหน้า”

 

เมื่อพิจารณาคำกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่าแบรนด์รถยนต์ในเครือ Stellantis ไม่ว่าจะเป็น Dodge Jeep หรือแม้กระทั่ง รถกระบะ Full-seize อย่าง Ram ต่างพากันเปิดตัวรถยนต์ที่ใช้ขุมพลังไฟฟ้าล้วน ตลอดปี 2022 เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของชาวอเมริกันได้ครบทุก Segment

นอกจากนี้ จะพบว่ายังมีค่ายรถแดนมะกันอีกเจ้าที่ตัดสินใจลดจำนวนพนักงานอย่าง Ford ที่เตรียม ลดอีกกว่า 3,000 อัตรา ใน สหรัฐอเมริกา แคนาดาและอินเดีย รวมไปถึงคู่แข่งคนสำคัญอย่าง General Motors ที่ได้ดำเนินแผนการปรับลดพนักงานไปก่อนแล้ว

เป็นอีกเสียงที่จะยืนยันถึงการปรับเปลี่ยนทรัพยากรบุคคลในบริษัทรถยนต์ชั้นนำของอเมริกาเหนือ ที่ต้องการปรับลดต้นทุนและใช้ทรัพยากรต่างๆ ในการผลิตรถยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและเทคโนโลยี

ที่มา: Motor1