รถ SUV ขนาดกลาง 3 แถว 7-8 ที่นั่ง ยังคงได้รับความนิยมในตลาดอเมริกาเหนือ โดยหนึ่งในผู้ท้าชิงของตลาดพ่อบ้านเมกากลุ่มนี้ อาจจะไม่คุ้นหูนักเลงรถชาวไทยเท่าไรนัก เนื่องจาก Honda ประเทศไทยไม่เคยทำมาวางจำหน่าย แต่สำหรับบ้านเกิด ถือเป็นรุ่นที่ 4 แล้ว หลังจากทำตลาดมาแล้วเกินกว่า 2 ทศวรรษ

โดยรุ่นใหม่นี้สร้างขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับ Acura MDX เช่นเคย อีกทั้งงานออกแบบด้านหน้ามีความคล้ายคลึงกับ CR-V รุ่นที่ 6 ที่จ่อเปิดตัวในไทยเร็วๆนี้

Pilot Trailsport

ไฟหน้า LED ทรงเรียว ต่อเนื่องกับกระจังหน้ารังผึ้งขนาดใหญ่ ฝากระโปรงหน้าถูกยืดให้ยาวขึ้น และมีการถอยเสา A เพื่อสอดรับกัน ทำให้ตัวรถดูสปอร์ตยิ่งขึ้น ในขณะที่งานออกแบบรอบคัน เน้นความบึกบึน ด้านข้างโดดเด่นด้วยเส้นสายเอกลักษณ์ เสา C และ D ขนาดใหญ่ เสริมภาพลักษณ์ตัวลุย และยังย้อนให้รำลึกถึงรุ่นที่ 2 อีกด้วย

ด้านท้ายมาพร้อมฝากระโปรงบานโต เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าแบบ Hands-free พร้อมคิ้วคาดกลางขนาดใหญ่ ที่เป็นตำแหน่งของโลโก้ PILOT อันโดดเด่น พร้อมไฟท้าย LED ทรงใหม่ และสปอยเลอร์ที่ออกแบบให้กลมกลืนกับตัวรถ

Pilot Trailsport

ภายนอกของรุ่น Trailsport จะตกแต่งเน้นลุยเป็นพิเศษ ด้วยชุดตกแต่งและแผ่นกันกระแทกรอบคัน อีกทั้งยังเสริมความสามารถในการลุยด้วยช่วงล่างที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ พร้อมเหล็กกันโคลงเฉพาะรุ่นอีกด้วย ล้ออัลลอยลายดิบโหดสีดำเงา ขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยาง all-terrain จาก Continental TerrainContact ขนาด 265/60R18 ปิดท้ายด้วยสีตัวถังพิเศษ สีฟ้า Sky Blue

ติดตั้งระบบ i-VTM4™ torque-vectoring ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลุยได้ดียิ่งขึ้น พร้อมโหมดการขับขี่สูงสุด 7 โหมด ได้แก่ Normal  ECON  Sport Trail  Snow  Sand และ Tow พิเศษสำหรับรุ่น TrailSport และ Elite ติดตั้งกล้องสำหรับตรวจจับสิ่งกีดขวางขณะลุยเส้นทางทุรกันดาร TrailWatch พร้อมระบบ Hill Descent Control เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ระบบความปลอดภัยติดตั้ง Honda Sensing มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ทำงานร่วมกับกล้อง Wide view พร้อมถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าและถุงลมนิรภัยด้านข้างเบาะคู่หน้า ออกแบบใหม่ รวมถึงเพิ่มเติมถุงลมนิรภัยบริเวณเข่าสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า

Pilot Trailsport

งานออกแบบภายในเน้นความสะดวกสบาย เติมความเรียบง่าย ยังคงมีปุ่มควบคุมที่จำเป็นติดตั้งไว้ตามตำแหน่งต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วน โดยช่องแอร์เป็นแบบทั่วไป ไม่ได้มีการนำงานออกแบบรังผึ้งแบบรุ่นน้องๆ มาใส่ไว้ จอกลางขนาด 7 นิ้วในรุ่น Sport ในขณะที่รุ่นอื่นๆ จะอัพเกรดเป็นจอขนาด 9 นิ้ว พร้อม Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ควบคู่กับที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย จอมาตรวัดผู้ขับขี่ในทุกรุ่นจะได้รับเป็นจอกึ่ง Digital และ Analog ขนาด 7 นิ้ว ยกเว้นรุ่น Elite ที่มาพร้อมจอขนาด 10.2 แบบ Full-digital

Pilot Elite

จุดเด่นอยู่ที่การเพิ่มพื้นที่ภายใน ทั้งระยะวางขาของผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3 พร้อมเบาะนั่งคู่หน้าออกแบบใหม่ให้ความสบายยามเดินทางไกลสูงสุด เบาะแถว 2 ยังเอนได้สูงถึง 10 องศา พร้อมปุ่มกดเพื่อเข้าสู่เบาะแถวที่ 3 แบบ One-touch

การจัดเบาะนั่งในรุ่น Sport EX และ EX-L จะประกอบไปด้วยเบาะแถวที่ 2 และ 3 แบบแถวยาว ทำให้จุผู้โดยสารได้สูงสุด 8 ที่นั่ง ในขณะที่รุ่นTrailSport จะติดตั้งเบาะแถวกลางแบบ Captain seat ทำให้เป็นรถแบบ 7 ที่นั่ง

ไฮไลท์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ในรุ่น Touring และ Elite เพราะเป็นครั้งแรกของกลุ่มนี้ คือ เบาะชิ้นกลางของแถวที่ 2 ซึ่งสามารถปรับฟังก์ชั่นได้ถึง 3 แบบ ได้แก่

  • เบาะที่นั่งตำแหน่งที่ 8
  • พนักเท้าแขนพร้อมที่วางแก้ว เปลี่ยนให้เป็นเบาะแบบ Captain seats
  • สามารถยกออกและนำไปเก็บไว้ที่พื้นห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ เพื่อเปลี่ยนให้เป็นรถ 7 ที่นั่ง

เครื่องยนต์เบนซินรหัส J35Y8 V6 ขนาด 3.5 ลิตร DOHC เพลาราวลิ้นคู่ปรับปรุงใหม่ ไร้ระบบอัดอากาศ ระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงตรงสู่ห้องเผาไหม้ ให้กำลังสูงสุด 285 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 355 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที พร้อมระบบ VCM และไม่มีระบบ VTEC จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ เป็นครั้งแรกใน Pilot ส่งกำลังผ่านล้อคู่หน้า หรือ 4 ล้อ ให้เลือก โดยเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น Elite และ TrailSport

Honda จะผลิต Pilot ที่โรงงานในรัฐ Alabama สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโรงงานแห่งเดียวที่ผลิต Pilot มาแล้วกว่า 2 ล้านคัน สำหรับชาวอเมริกันโดยเฉพาะ โดยราคาจำหน่ายยังต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ที่มา: Honda USA