Volvo กระตุ้นตลาดรถยนต์กลุ่มพลังไฟฟ้าล้วนอีกครั้ง โดยการอัพเกรดแบตเตอรี่ เพื่อให้ระยะทางที่วิ่งได้สูงสุดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยโมเดลฝาแฝด XC40 และ C40 รถ Crossover ตัวถังแบบธรรมดาและแบบท้ายลาด ซึ่งในตลาดยุโรปมีให้เลือกทั้งแบบมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบตลาดประเทศไทย

โดยรุ่นมอเตอร์เดี่ยวแต่เดิมจะขับเคลื่อนล้อคู่หน้า แต่ในรุ่นปรับปรุงใหม่ Model year 2024 จะย้ายมาขับเคลื่อนล้อคู่หลังแทน ซึ่ง Volvo เคลมว่าจะมีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนได้ดีกว่าแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า

รุ่น XC40

รุ่นมอเตอร์เดี่ยว 238 แรงม้า จะได้รับการอัพเกรดจากขนาด 69 kWh เป็น 75 kWh โดยมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าที่ 17.1 kWh/100 กม. สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดต่อ 1 การชาร์จที่ 285.8 ไมล์ (เพิ่มขึ้น 20 ไมล์) หรือ 457.28 กิโลเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 7.4 วินาที

รุ่นมอเตอร์คู่ 408 แรงม้า จะได้รับการอัพเกรดจากขนาด 78 kWh เป็น 82 kWh และมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าที่ 16.5 kWh/100 กม. สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดต่อ 1 การชาร์จที่ 311.3 ไมล์ (เพิ่มขึ้น 40 ไมล์) หรือ 498.08 กิโลเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 4.9 วินาที

รุ่น C40

รุ่นมอเตอร์เดี่ยว 238 แรงม้า จะได้รับการอัพเกรดจากขนาด 69 kWh เป็น 75 kWh โดยมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าที่ 16.5 kWh/100 กม. สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดต่อ 1 การชาร์จที่ 296.4 ไมล์ (เพิ่มขึ้น 20 ไมล์) หรือ 474.24 กิโลเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 7.4 วินาที

รุ่นมอเตอร์คู่ 408 แรงม้า จะได้รับการอัพเกรดจากขนาด 78 kWh เป็น 82 kWh และมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าที่ 17.9 kWh/100 กม. สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดต่อ 1 การชาร์จที่ 314.4 ไมล์ (เพิ่มขึ้น 40 ไมล์) หรือ 503.04 กิโลเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 4.9 วินาที

 

นอกจากนี้รุ่นมอเตอร์คู่ของทั้ง XC40 และ C40 ยังได้รับการอัพเกรดในส่วนของกำลังไฟสูงสุดของการชาร์จเร็ว จาก 150 kW เป็น 200 kW ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 27 นาที จาก 37 นาที ในการชาร์จจาก 10% – 80%

โดยตลาดยุโรปสามารถสั่งจองรุ่นปรับปรุงของ XC40 และ C40  Model year 2024 ได้ตั้งแต่บัดนี้ แต่รุ่นมอเตอร์คู่จะได้รับรถเดือนพฤษภาคม ปี 2023 เป็นต้นไป ในขณะที่รุ่นมอเตอร์เดี่ยวจะได้รับรถตั้งแต่ปลายปี 2022 นี้ โดยมีการปรับราคาขึ้นประมาณ 43,000 บาท ต่อรุ่นย่อย

ที่มา: Autocar