ได้เวลาปรับโฉมหรือที่เรียกกันว่า LCI ตามภาษาของชาว Bimmer ค่ายใบพัดฟ้าขาวของ SUV รุ่นแรกของแบรนด์อย่าง X5 (G05) และฝาแฝดทรงท้ายลาด SUV Coupe อย่าง X6 (G06) ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2018 และ 2019 ตามลำดับ เพื่อให้มีเทคโนโลยีต่างๆ ทัดเทียมกับเพื่อนร่วมค่าย รวมไปถึงการปรับทัพขุมพลังให้ตรงตามความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น

BMW X5 xDrive50e

ภายนอกของ X5 และ X6 ใหม่ ได้รับการ ปรับรายละเอียดและขนาดของไฟหน้าให้มีขนาดเพรียวบางลงกว่าเดิม พร้อมปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของกระจังหน้าทรงไตคู่ และปรับเส้นสายของกันชนหน้าและกันชนล่างให้สอดรับกัน โดยในรุ่น X5 จะมาพร้อมกระจังหน้าแบบเรืองแสงได้ตามสมัยนิยมให้เลือก สำหรับใครที่ต้องการลุคสปอร์ตเต็มพิกัด คงต้องมองหารุ่นท็อปออฟเดอะไลน์อย่าง X6 M60i xDrive ที่เปลี่ยนโทนสีการตกแต่งภายนอกมาเป็นสี่ดำเงา และติดตั้งปลายท่อไอเสียด้านหลังแบบ 4 ช่อง

ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้ายออกแบบรายละเอียดภายในใหม่ ผสานทั้ง 2 ข้าง ให้กลายเป็นตัว X พร้อมติดตั้งแผงดิฟฟิวเซอร์สีเงินขนาดใหญ่ออกแบบใหม่

 

พิเศษกับรุ่น X6 ที่มาพร้อมการตกแต่ง M Sport เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และสามารถเลือกอัพเกรดเป็น M Sport package Pro ได้เป็นครั้งแรก ทั้งรุ่น X5 และ X6 ที่มาพร้อมสีตัวถังใหม่ สีฟ้า M Marina Bay Blue metallic (X5) และ สีเขียว M Isle of Man Green (X6) ขณะที่รุ่นปกติก็ได้รับการเพิ่มเติมสีภายนอก ได้แก่ สีน้ำเงิน Blue Ridge Mountain metallic สีเทา Brooklyn Grey metallic สีเทา Skyscraper Grey metallic และสีเทา Frozen Pure Grey metallic

มิติตัวถัง:

  • ความยาว: 4,935 มม.
  • ความกว้าง: 2,004 มม.
  • ความสูง: 1,755 มม.
  • ฐานล้อ: 2,975 มม.
  • ความจุห้องสัมภาระ: 500 – 1,720 ลิตร
  • รัศมีวงเลี้ยว: 6.3 ม.
  • ความจุถังน้ำมัน: 69 ลิตร

 

ภายในได้รับการอัพเกรดเทคโนโลยีด้วย BMW Operating System 8 และ iDrive รุ่นล่าสุด มาพร้อมจอกลางแบบโค้งเช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆ ในค่าย ประกอบไปด้วยจอมาตรวัดผู้ขับขี่ขนาด 12.8 นิ้ว และจอกลางขนาด 14.9 นิ้ว ที่ถูกติดตั้งมาเป็นชิ้นเดียวกันอย่างสวยงาม

พร้อม เพิ่มเติมวัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าคล้ายหนังแท้ชื่อว่า Sensafin ควบคู่กับลายไม้ พร้อมติดตั้งไฟตกแต่งห้องโดยสาร ambient light bar แบบ LED บริเวณใต้คอนโซลหน้าฝั่งผู้โดยสาร พร้อมติดตั้งลาเบลรุ่น X5 หรือ X6 ในขณะที่รุ่น M60i จะเปลี่ยนไปใช้ตัวอักษร M แทน ปิดท้ายด้วยปุ่มเลือกตำแหน่งเกียร์แบบใหม่เป็นสวิตช์ไฟฟ้าทดแทนคันเกียร์แบบรุ่นก่อนหน้า

X5 xDrive50e

สำหรับระบบความปลอดภัย Driving Assistance Professional Package ที่เพิ่มเติม Highway Assistant หรือระบบ ช่วยเหลือการขับขี่ ทางไกล ทางการควบคุมรถให้อยู่ในเลนและการเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ จนถึงความเร็วสูงสุด 137 กม./ชม. พร้อมแสงการทำงานบนหน้าจอกลางผ่านระบบ Assisted View mode

เพิ่มเติมด้วย Parking Assistant Professional หรือระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ ที่จะจดจำเส้นทางการนำรถเข้าช่องจอดเป็นระยะทางสูงสุดกว่า 200 เมตร และจะนำรถออกจากช่องจอดโดยปราศจากการควบคุมจากผู้ขับขี่ ซึ่งสามารถสั่งการจากภายนอกรถด้วยแอพพลิเคชั่น My BMW

X6 M60i xDrive

สำหรับรุ่น xDrive50e PHEV เสียบปลั๊กชาร์จไฟได้ ที่มาแทน xDrive45e จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง DOHC 24 วาล์ว 3.0 ลิตร 2,998 ซีซี พ่วงระบบอัดอากาศ TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 313 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 – 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 – 4,700 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 197 แรงม้า (PS) แรงบิด 280 นิวตันเมตร (ที่สามารถ Boost ได้สูงสุดถึง 450 นิวตัน-เมตร ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ) พละกำลังรวมสูงสุด 489 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ความจุ 25.7 kWh (NET) ที่อัพเกรดจาก 17.1 kWh ทำให้วิ่งได้ด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ไกลถึง 64 กิโลเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive

สมรรถนะตัวเลขเคลมจากโรงงาน

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายในเวลา 4.8 วินาที
  • ความเร็วสูงสุดทำได้ 250 กม./ชม.

xDrive50e PHEV

แรงสุดด้วยรุ่น M60i xDrive ที่อัพเกรดมาใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 DOHC 32 วาล์วขนาด 4.4 ลิตร 4,395 ซีซี. พร้อมระบบอัดอากาศ แบบ Twin-Turbocharger ได้รับการปรับแต่งโดยเฉพาะจาก BMW M GmbH ให้กำลังสูงสุด 530 แรงม้า (PS) ที่ 5,500-6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 750 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 4,600 รอบ/นาที พ่วงระบบ Mild-Hybrid เช่นเดียวกับรุ่น

สมรรถนะตัวเลขเคลมจากโรงงาน

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายในเวลา 4.8 วินาที
  • ความเร็วสูงสุดทำได้ 250 กม./ชม.

โดยเช่นเดียวกับรุ่น sDrive40i xDrive40i และ xDrive30d ที่ได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 12 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตัน-เมตร ทำงานภายใต้แรงดันไฟฟ้า 48V ในรูปแบบ Mild-Hybrid

หากใครยังต้องการความสนุกสนานในการขับขี่เพิ่มเติมทาง BMW เตรียม แพ็คเกจ M Sport ที่จะปรับอัตราทดเกียร์ให้อยู่ในค่าต่ำสุด เมื่อเข้าสู่โหมดออกตัวพิเศษ และทุกรุ่นได้รับการติดตั้งปั๊มน้ำมันไฟฟ้าและชุดลดแรงสั่นสะเทือนภายในเกียร์อีกด้วย

หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมของการทำตลาดของ BMW X5 และ X6 รุ่น LCI ในประเทศไทยทาง Headlightmag จะนำมารายงานให้ทราบอีกครั้ง

ที่มา: BMW