Tesla ได้จัดงานแถลงข่าวถึงเทคโนโลยีในการผลิตทั้งปัจจุบันและอนาคต เพื่อแสดงจุดยืนความพร้อมการสู้ศึกรถ EV ที่มีต้นทุนการผลิตเหมาะสมกับราคาจำหน่าย กล่าวคือ Tesla สามารถจัดการกับสายพานการผลิตได้อย่างดีเยี่ยม มีการคิดค้นและดัดแปลงสายพานการผลิต รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีขึ้นรูปแบบใหม่ เพื่อลดเวลาและต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ

Lars Moravy หัวหน้าวิศวกรที่ทำงานกับ Tesla ตั้งแต่โปรเจ็ค Model S ที่ได้กล่าวในงานแถลงนี้ว่า ทีมงานของเขาสามารถลดต้นทุนการผลิตรถ EV ในอนาคตอันใกล้นี้จนเหลือเพียง 50% ของปัจจุบัน หรือเทียบกับ Model 3 และ Model Y เพื่อให้สามารถทำราคาจำหน่ายของรถ EV รุ่นใหม่ที่จับต้องได้ง่าย ที่ราคาเริ่มต้นเพียง 20,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 7 แสนบาท

 

โดยทาง Lars Moravy ได้ให้ข้อมูลระหว่างการนำเสนอว่า ขั้นตอนการผลิตรถยนต์ของค่ายอื่นๆ ในปัจจุบัน จะเริ่มจากการปั๊มแผ่นเหล็กจำนวนหลายๆชิ้น เพื่อนำมาประกอบกันด้วยการเชื่อม ซึ่งจะมีทั้งการควบคุมด้วยหุ่นยนต์และมนุษย์ ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีและการวางแผนตั้งแต่การออกแบบชิ้นส่วนของรถยนต์แต่ละรุ่นและแต่ละแบรนด์

Tesla ได้เปลี่ยนกระบวนการผลิตชิ้นส่วนตัวถังใหม่ และเรียกมันว่า ‘Unboxed Process’ ซึ่งเป็นการยุบรวมชิ้นส่วนจำนวนมากเหลือเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีการขึ้นรูปเหล็กขั้นสูง โดยคำนึงถึงการติดตั้งแบตเตอรี่เป็นสำคัญ และยังขยายผลไปถึงขั้นตอนการประกอบชิ้นส่วนภายในห้องโดยสารต่างๆ โดยเฉพาะเบาะนั่ง

 

ทั้งหมดนี้ทำให้ Tesla สามารถลดทั้งเวลาในการผลิตและประกอบ ต้นทุนทั้งหมดที่ใช้ รวมไปถึงปริมาณของเสียและมลพิษที่ปล่อยออกมาได้มากกว่า 40%

ที่น่าเสียดายก็คือ การนำเสนอรายละเอียดของรถรุ่นใหม่ที่คาดว่าจะใช้ชื่อ Model 2 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงเช่นนี้เป็นครั้งแรก ยังคงอยู่ในขั้นตอนเก็บเป็นความลับ แต่มีการคาดการณ์ว่ารุรุ่นใหม่นี้ จะมีน้ำหนักเบาลงกว่า 30% พร้อมแบตเตอรี่ขนาดเล็กกว่า Model 3 ถึง 25%

ที่มา: Carscoops