Ferrari Roma รถสปอร์ตสมรรถนะสูงสไตล์ Gran Tourer เน้นการเดินทางเป็นหลัก พร้อมสรรพด้วยความหรูหราที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2020 งานออกแบบภายนอกยังคงมีเส้นสายเหมือนกับรุ่นหลังคาแข็งไม่ผิดเพี้ยน ด้วยเส้นสายที่ฉีกจากรุ่นอื่นๆ ในค่าย จับกลุ่มลูกค้ารุ่นใหญ่ และเน้นความรื่นรมย์ยามขับขี่มากกว่าสมรรถนะในสนามแข่ง หรือความดิบเถื่อนแบบรุ่นอื่นๆ

สำหรับรุ่นเปิดประทุนหลังคาอ่อน มีการปรับงานออกแบบที่บริเวณฝาปิดเครื่องยนต์และฝากระโปรงท้าย เพื่อรองรับการติดตั้งหลังคาผ้าใบ ที่ถูกออกแบบอย่างบรรจงและสามารถเลือกสีของด้ายและสีของผ้าหลังคาได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบให้รองรับสปอยเลอร์แบบพับเก็บได้ที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งจะทำงานตามความเร็วที่กำหนดไว้

 

หลังคาผ้าใบมีโครงสร้างที่แข็งแรงและน้ำหนักเบา และสามารถปรับการทำงานปิดและเปิด ได้ภายในเวลาเพียง 13.5 วินาที ที่ความเร็วต่ำกว่า 60 กม./ชม. อีกทั้งยังมาพร้อมแผงกั้นลมเพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ยามเดินทางท่ามกลางสภาพลมแรงเมื่อเปิดหลังคา

 

Ferrari Roma ใช้เครื่องยนต์เบนซิน แบบ V8 ขนาด 3.9 ลิตร 3,855 ซีซี. เทอร์โบคู่ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 86.5 x 82 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 620 แรงม้า (PS) ที่ 5,750 – 7,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 760 นิวตันเมตร ที่ 3,000 – 5,750 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DCT 8 จังหวะ ลูกใหม่จาก SF90 Stradale ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ด้านสมรรถนะมีดังนี้

  • อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.4 วินาที (เท่ากับรุ่น หลังคาแข็ง)
  • อัตราเร่ง 0 – 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 9.7 วินาที (รุ่นหลังคาแข็งทำได้ภายในเวลา 9.4 วินาที)
  • ความเร็วสูงสุดทำได้ไม่ต่ำกว่า 320 กิโลเมตร/ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม น้ำหนักตัวของเวอร์ชั่นเปิดหลังคา หรือ Spider นั้นมีมากกว่าเวอร์ชั่นหลังคาแข็งอยู่ 84 กิโลกรัม แต่การปรับแต่งการตอบสนองของขุมพลังและระบบขับเคลื่อน ทำให้สามารถรองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นโดยไม่กระทบกับสมรรถนะโดยรวมของตัวรถ

 

ภายในมาพร้อมจอแสดงผลความบันเทิงขนาด 8.4 นิ้ว ติดตั้งอยู่กลางคอนโซลหน้า โดยที่การจัดวางปุ่มควบคุมต่างๆ นั้นเป็นไปอย่างเรียบง่าย คงไว้ซึ่งบรรยากาศการเดินทางที่แสนสบาย โดยเฉพาะเบาะนั่งที่สามารถปรับได้ด้วยไฟฟ้ามากถึง 18 ตำแหน่ง พร้อมระบบอุ่นเบาะและออฟชั่นระบบเป่าลมอุ่นที่คอเป็นทางเลือกให้เสียเงินเพิ่มเติม การออกแบบคอนโซลระหว่างเบาะที่นั่งเป็นเสมือนพาร์ทิชั่นแบ่งระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า

 

ทาง Ferrari ยังไม่ประกาศราคาจำหน่ายในตอนนี้

ที่มา: Motor1