หน่วยงานของสหรัฐฯ ที่คอยตรวจสอบความปลอดภัยบนท้องถนน หรือ National Highway Traffic Safety Administration’s (NHTSA) The National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA) กำลังตรวจสอบกรณีความผิดปกติของระบบบังคับเลี้ยวของ Honda Civic Model Year 2022-2023 หรือโฉมปัจจุบัน หลังจากได้รับรายงานการร้องเรียนเป็นจำนวนกว่า 145 เคส ตลอดระยะเวลาการทำตลาดของ Civic ในสหรัฐอเมริกากว่า 11 เดือน

โดยปัญหาที่ทางลูกค้าพบเจอ ทางบันทึกของหน่วยงานใช้ชื่อว่า “sticky steering” หมายถึงภาวะที่น้ำหนักหน่วงพวงมาลัยมีความหนักขึ้นมาเสียดื้อๆ ขณะขับขี่ในสภาพปกติ โดยเฉพาะในภาวะที่ขับขี่บนความเร็วเดินทาง หรือ highway speed หลังจากขับขี่มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และที่น่าสังเกต คืออาการดังกล่าวเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ระยะเลขไมล์น้อยๆ

 

ผลกระทบของปัญหานี้ ทำให้ผู้ขับขี่อาจสูญเสียการควบคุมตัวรถหากเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดได้ โดยเฉพาะการหักหลบสิ่งกีดขวางอย่างปลอดภัย จนอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันได้ เคราะห์ดีที่ทาง NHTSA ยังไม่พบรายงานการสูญเสียและการบาดเจ็บของอุบัติเหตุที่มีสาเหตุจากปัญหาดังกล่าว

NHTSA ได้จัดตั้งทีมสอบสวนปัญหาดังกล่าวขึ้นเฉพาะกิจ หลังจากได้รับรายงานข้อมูลที่มีเหตุเชื่อมโยงกับปัญหาดังกล่าว โดยการสอบสวนเบื้องต้นจะเริ่มจากการตรวจสอบขอบเขตของปัญหาและระดับความรุนแรงที่เกิดขึ้น เพื่อตรวจสอบความเชื่อมโยงกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดผลกระทบต่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน โดยทีมตรวจสอบคาดว่าจะมีรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบสูงสุดได้ถึง 238,000 คัน

และด้วยความร่วมมือกับทาง Honda อเมริกาเหนือ ที่ออกมายืนยันความรับผิดชอบโดยเฉพาะรถที่พบเจอปัญหาดังกล่าว ให้นำรถเข้าตรวจสอบได้ที่ดีลเลอร์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เนื่องจากยังอยู่ในระยะรับประกันคุณภาพ

 

ทั้งหมดนี้นับว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่ทางฝ่ายตรวจสอบปัญหาของ NHTSA ได้ทำงานร่วมกับ Honda อเมริกาเหนือ หลังจากมีปัญหาด้านการทำงานของระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ CMBS ในรถยนต์รุ่น Accord ปี 2018-2019 และรุ่น CR-V ปี 2017-2019 รวมไปถึงปัญหาจากการสตาร์ทเครื่องยนต์ติด/ดับ ของ Pilot เจเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งทั้ง 2 ปัญหานี้รวมเป็นรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบจำนวนกว่า 450,000 คัน

NHTSA ยังไม่สามารถให้ข้อมูลระยะเวลาที่จะปิดเคสสอบสวนกรณีความผิดปกติของพวงมาลัยได้ในขณะนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมทาง Headlightmag จะนำมารายงานให้ทราบอีกครั้ง

ที่มา: Motor1