Neta แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ด้วยยอดจองและยอดส่งมอบ ในประเทศไทยที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งล่าสุดได้มีการเตรียมจัดส่ง Neta V เป็นจำนวนกว่า 3,600 คัน มายังกระเทศไทย นับว่าเป็นล๊อตที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการส่งออกจากท่าเรือในเมืองกวางโจว โดยเรือได้ออกจากท่าเมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา

ขณะนี้ทางบริษัทได้ขยายกิจการไปยังประเทศต่างๆ โดยได้ตั้งฐานการตลาดไว้ที่ยุโรปและประเทศไทย ซึ่งเตรียมวางจำหน่ายรถยนต์จำนวนทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Neta U Neta V และ Neta V พวงมาลัยขวา โดยจะครอบคลุมภูมิภาคอาเซียน เอเชียและตะวันออกกลาง

 

 

แท้จริงแล้ว Neta V มีรุ่นเริ่มต้นที่วางจำหน่ายในประเทศจีนบ้านเกิด ที่มาพร้อมทางเลือก 3 ความแรง ได้แก่ มอเตอร์เดี่ยวกำลังสูงสุด 54 แรงม้า 75 แรงม้า และ 95 แรงม้า ขณะที่แบตเตอรี่มีความจุ 2 ขนาด 3 รูปแบบ ได้แก่ 31.15 kWh แบบ LFP 31.15 kWh แบบ NMC และ 38.5 kWh แบบ NMC ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย

แน่นอนว่าความต้องการของ NETA นั้นสอดคล้องกับข้อตกลงที่ได้ทำไว้กับการใช้สิทธิ์ยกเว้นภาษีกับทางรัฐบาล นั่นก็คือ การตั้งโรงงานประกอบรถยนต์นอกประเทศจีนแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียนที่ประเทศไทย โดยได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะสามารถเดินสายพานการผลิตได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 เป็นต้นไป ที่สามารถรองรับกำลังการผลิตได้สูงสุดกว่า 20,000 คันต่อปี

 

ด้วยความนิยมที่เกิดจากราคาจำหน่ายอันเย้ายวนใจและความน่ารักของงานออกแบบภายนอกภายใน ทำให้ Neta V ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 ของยอดขายรถยนต์ของพลังไฟฟ้าล้วนในประเทศไทยตามหลัง BYD ATTO 3 เป็นระยะเวลา 2 เดือนติดกัน จึงทำให้สั่งฆ่ามีความมั่นใจทั้งการทำตลาดในประเทศไทยและการยึดไทยเป็นฐานส่งออกและดูแลการให้บริการต่างๆทางเทคนิคของผลิตภัณฑ์

ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของความก้าวหน้าและความเปลี่ยนแปลงของวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย ที่นอกจากจะมีบรรดาผู้ผลิตรถยนต์จากแดนมังกรเข้ามาวางจำหน่ายรถยนต์ขุมพลังไฟฟ้าล้วนเป็นจำนวนมากหน้าหลายตาแล้ว ยังมีการสนับสนุนสิทธิพิเศษทางภาษี แต่ก็แลกมาด้วยข้อตกลงในการจัดตั้งโรงงาน นั่นหมายความว่า ตามแผนและเป้าหมายที่ทางการได้กำหนดไว้ “ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจะแบ่งเป็นกลุ่มพลังไฟฟ้าล้วนเป็นอัตราส่วนมากกว่า 30% ของยอดขายรถยนต์รวม ภายในปี 2030”

ที่มา: Carnewschina