Mini ได้เผยโฉมรุ่นถัดไปของ Mini Cooper โดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็มิอาจทราบได้ เนื่องจากยังคงอยู่ในขั้นตอนการทดสอบตามสภาวะแวดล้อมต่างๆ ก่อนที่จะเตรียมเข้าสู่การขึ้นสายพานการผลิตอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งรถทดสอบกลุ่มนี้ได้ถูกจับภาพได้โดยไร้การพรางตัวแต่อย่างใด ที่นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา

โดยรถคันดังกล่าวยังสร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยการติดป้ายบอกชื่อรุ่น Cooper S (ตัว S สีเขียว) ทั้งๆ ที่เป็นรุ่นขุมพลังไฟฟ้าล้วนหรือ SE ภายใต้ธีมการออกแบบใหม่ที่เน้นเส้นสายที่เรียบง่ายมากกว่ารุ่นก่อน พร้อมกับการขยายขนาดตัวถังให้ใหญ่ขึ้น มาพร้อมกระจังหน้าทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่ โดยที่ยังคงเอกลักษณ์ไฟคู่หน้าทรงกลมเช่นเดิม แต่ได้ขยายขนาดใหญ่ขึ้นและปรับให้เป็นทรงรีแทน พร้อมไฟ DRL แบบเส้นคู่เพิ่มความแตกต่าง

 

ด้านข้างเปลี่ยนมาใช้มือเปิดประตูแบบ Flip-type หรือแบบดึงเปิด ซึ่งถูกติดตั้งให้เรียบเนียนไปกับตัวรถ โดยที่ยังมีรูปแบบหน้าต่างรอบคันเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง พร้อมกระจกมองข้างติดตั้งที่ประตูคู่หน้าตามแบบฉบับ Mini ทุกรุ่น

ขณะที่ด้านหลัง ได้ปรับขนาดไฟท้ายให้เล็กลง โดยเน้นการโชว์ฝากระโปรงหลังขนาดใหญ่ที่ปรับให้มีเส้นสายที่เรียบง่ายมากกว่าเดิมพอสมควร แต่ยังมีการคาดกลางบริเวณเหนือป้ายทะเบียนด้วยคิ้วสีดำเงาและตราสัญลักษณ์ COOPER S ทั้งนี้ ยังคงไว้ซึ่งลวดลายของไฟท้ายจากธง Union Jack ขณะเบรกและเปิดไฟส่องสว่างยามค่ำคืน นอกจากนี้สิ่งที่ยืนยันว่ารถทดสอบคันดังกล่าวเป็นรุ่น SE สามารถสังเกตได้จากการไม่มีท่อไอเสียบริเวณด้านใต้กันชนหลัง

 

อย่างไรก็ตามขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปภายในของ Cooper เจเนอเรชั่นนี้จะยังคงมีอยู่ต่อไป แต่จะถูกผูกไว้กับระบบ Mild-hybrid 48 V ตามสมัยนิยม ควบคู่กับรุ่นขุมพลังไฟฟ้าล้วน ที่จะมีให้เลือกทั้งแบตเตอรี่ความจุ 40 kWh และ 54 kWh จากทางเลือกความแรง 2 ระดับ ได้แก่ 181 และ 215 แรงม้า โดยจะสามารถวิ่งได้เป็นระยะทางสูงสุดกว่า 384 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP

กำหนดการเปิดตัวของ Mini รุ่นใหม่นี้ จะมีขึ้นในช่วงปี ปลายปี 2023 และจะพร้อมวางจำหน่ายในช่วงกลางปี 2024

ที่มา: Motor1