ราคาอย่างเป็นทางการ Range Rover SPORT Dynamic SE : เริ่มต้น 8,599,000 บาท (CBU) | เบนซิน PHEV 510 แรงม้า

ราคาอย่างเป็นทางการ All NEW Range Rover SPORT

Range Rover Sport Dynamic SE Plug-in Hybrid : เริ่มต้น 8,599,000 บาท

นำเข้าทั้งคัน (CBU) โดยบริษัท Inchcape (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Land Rover และ Jaguar อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

มาพร้อมโปรแกรม Land Rover Care ระยะเวลารวม 5 ปี ซึ่งประกอบด้วย

การรับประกันตัวรถ Warranty
ฟรีค่าบำรุงรักษา Free Servicing
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance

ขนาดและมิติตัวถัง
Dimension

ความยาว : 4,946 มิลลิเมตร
ความกว้าง : 2,047 มิลลิเมตร
ความสูง : 1,820 มิลลิเมตร
ฐานล้อ : 2,997 มิลลิเมตร
รัศมีวงเลี้ยว : 5.475 เมตร

ขีดความสามารถด้านการลุย

มุมไต่ : 33 องศา
มุมจาก : 30 องศา
มุมคร่อม : 26.9 องศา
ระยะตำ่สุดใต้ท้องรถ : 281 มิลลิเมตร
ลุยนำ้ลึกได้มากสุด : 900 มิลลิเมตร

งานออกแบบภายนอกมาพร้อมไฟหน้า LED แบบเรียบง่ายแต่ติดตั้งไฟ DRL ให้ลุคแบบ Crystal ที่บางที่สุดตั้งแต่ Land Rover เคยทำมา กันชนหน้าขนาดใหญ่แบ่งช่องดักลมออกแบบ 2 ส่วน บนล่าง คั่นด้วยทะเบียน พร้อมช่องดักลมด้านข้างขนาดใหญ่ ไฮไลท์อยู่ที่ค่าสัมประสิทธ์แรงต้านอากาศ (cd) เพียงแค่ 0.29 ด้วยความเรียบร้อยของเส้นสายรถทั้งคัน และปิดท้ายด้วยฝาท้ายที่มีความแตกต่างจาก Range Rover อย่างชัดเจน ด้วยการเปลี่ยนมาใช้ไฟท้ายแนวนอนเหมือนรุ่นอื่นๆ ในค่าย พร้อมการติดตั้งเส้นคาดและโลโก้รุ่นทำให้ด้านท้ายไม่ดูเรียบจนเกินไปและเพิ่มมิติให้รถดูกว้างขึ้น

ภายในห้องโดยสารจัดเต็มด้วยวัสดุและงานออกแบบหรูหราที่ยังคงไว้ซึ่งปุ่มควบคุมต่างๆ ในปริมาณที่เยอะกว่ารถยนต์หรูรุ่นใหม่ๆ เนื่องจาก Land Rover ต้องการให้การควบคุมต่างๆ ทำได้โดยไม่ต้องละสายตาหรือเสียสมาธิยามขับขี่ ด้วยหน้าจอมาตรวัด Pivi Pro ขนาดใหญ่ถึง 13.7 นิ้ว ความละเอียดสูง ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ

หน้าจอกลาง Pivi Pro ขนาด 13.1 นิ้ว มาพร้อมระบบ Amazon Alexa ที่ทำงานร่วมกับ Home automation ได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยให้การนำรถเข้าบ้านสามารถสั่งงานเปิด-ปิดประตูรั้ว รวมทั้งไฟส่องสว่างต่างๆ ผ่านระบบสั่งงานด้วยเสียงที่ใช้ AI ในการประมวลผล นอกจากนี้ยังติดตั้ง Wireless Apple CarPlay® และ Wireless Android พร้อมการเชื่อมต่อด้วย eSIM และ Wireless charger 15W นอกจากนี้ ยังมีระบบปฏิบัติการ Electrical Vehicle Architecture 2.0 ทำให้สามารถอัพเดทระบบภายในตัวรถกว่า 63 โมดูล แบบ Over-The-Air

ระบบกรองอากาศเป็นแบบ Cabin Air Purification Pro with PM2.5 Filtration and nanoe X ที่ช่วยลดกลิ่นอับ แบคทีเรียและไวรัสที่ลอยอยู่ในอากาศ แม้กระทั่ง SARS-CoV-2 virus ด้วยหลักการปล่อยประจุและใช้ Hydroxyl ขนาดเล็กระดับนาโน ทำปฏิกิริยากับสิ่งปฏิกูลในอากาศ ซิ่งจะติดตั้งทั้งห้องโดยสารด้านหน้าและด้านหลัง

ระบบเครื่องเสียงจาก Advanced Meridian Audio มีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ รุ่นปกติ 15 ลำโพง 1 ซับวูฟเฟอร์ กำลังขับสูงสุด 400W รุ่น 3D ที่ใช้การติดตั้งลำโพงแบบซ่อนบนแผงหลังคา รวมทั้งหมด 18 ลำโพง 1 ซับวูฟเฟอร์ กำลังขับสูงสุด 800W และ Advanced Meridian Audio ติดตั้งลำโพงจำนวน 29 ชิ้น กำลังขับสูงสุด 1,430W

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
Engine & Drivetrain

P510e

เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง DOHC ขนาด 3.0 ลิตร (2,996 ซีซี) กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 83 x 92.29 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ตรงสู่ห้องเผาไหม้ แบบ Direct Injection พร้อมระบบอัดอากาศ แบบ Turbocharger พ่วง Intercooler ทำงานร่วมกับมอเตอร์กำลังสูงสุด 143 แรงม้า (PS) พ่วงด้วยแบตเตอรี่ ความจุ 38.2 kWh กำลังสูงสุด 510 แรงม้า (PS) ที่ 5,500 – 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 5,000 รอบ/นาที

ระบบชาร์จไฟ รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 7kW และไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 50kW สามารถชาร์จด้วย DC Rapid Charge จาก 0-80% ภายใน 40 นาที

สมรรถนะตัวเลขเคลมจากโรงงาน

อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายในเวลา 5.4 วินาที
ความเร็วสูงสุด Top Speed 242 km/h
ความเร็วสูงสุดใน EV Mode ทำได้ 140 km/h
ระยะทางวิ่งใน EV Mode ต่อ 1 การชาร์จเต็ม ทำได้ 113 km. (WLTP)

Gasoline (High-performance)

P530

เครื่องยนต์เบนซินจาก BMW V8 DOHC 32 วาล์วขนาด 4.4 ลิตร (4,395 ซีซี) กระบอกสูบ x ช่วงชัก 89 x 88.3 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ตรงสู่ห้องเผาไหม้ แบบ Direct Injection พร้อมระบบอัดอากาศ แบบ Twin-Turbocharger พ่วง Intercooler พร้อมระบบ Double VANOS และ Valvetronic ให้กำลังสูงสุด 530 แรงม้า (PS) ที่ 5,500-6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 750 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 4,600 รอบ/นาที

ทุกรุ่นจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะจาก ZF พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Intelligent All-Wheel Drive (iAWD) พร้อมระบบ Adaptive Off-Road Cruise Control เป็นครั้งแรก ที่จะช่วยควบคุมความเร็วรถ ทำให้ผู้ขับขี่ใช้สมาธิกับเพียงแค่การบังคับเลี้ยว พร้อมโหมดการขับขี่ Normal และ Dynamic พร้อม Launch Mode

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 4.5 วินาที
ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.

ระบบบังคับเลี้ยว
Steering Wheel

ระบบบังคับเลี้ยว เป็นแบบ Rack and pinion ผ่อนแรงด้วยพาวเวอร์ไฟฟ้า ePAS ปรับอัตราทดได้ พร้อมติดตั้งระบบเลี้ยว 4 ล้อ ได้สูงสุด 7.3 องศา สามารถลดขนาดวงเลี้ยวได้เหลือเพียง 5.5 เมตร

เสริมการทำงานด้วยระบบ Dynamic Response Pro ช่วยจัดการกับการทรงตัวของรถได้แม่นยำกว่าระบบไฮดรอลิค ด้วยความไวในการตอบสนองของระบบไฟฟ้า 48 Volt

ระบบกันสะเทือน
Suspension

ระบบช่วงล่างถุงลม Dynamic Air Suspension พร้อมระบบปรับช่วงล่างตามเส้นทางจากฐานข้อมูลระบบนำทาง eHorizon