บริษัทรถยนต์ในยุคปัจจุบันต้องหาทางรอดในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะการควบคุมต้นทุนทั้งระบบไม่ใช่แต่เพียงชิ้นส่วนและกระบวนการผลิตรถยนต์ ซึ่งจะรวมไปถึงต้นทุนด้านบุคคลหรือพนักงานที่อาจถูกปรับเปลี่ยนไปตามโครงสร้างองค์กรที่ต้องบรรลุเป้าหมายด้านผลกำไรของบริษัทให้จงได้

 

Volvo หนึ่งในบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการวิจัยและพัฒนารถยนต์มาโดยตลอด โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการเดินทาง รวมไปถึงการเข้าสู่ยุคขุมพลังไฟฟ้าล้วนภายในปี 2030 และยังประกาศว่าจะเป็นบริษัทรถยนต์ที่ควบคู่ไปกับเทคโนโลยีและการขายบริการที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการลดการใช้พนักงานในบางบริการหลังการขาย หันมาใช้เทคโนโลยี Platform ออนไลน์ในการรับมือบริการต่างๆ แทน

โดยออฟฟิศที่สวีเดนจะเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนที่ Volvo ตัดสินใจในการลดอัตราพนักงานเป็นจำนวนกว่า 1,300 คน  ซึ่งคิดเป็นจำนวน 6% ของพนักงานทั้งหมดที่อยู่ในประเทศสวีเดน โดยสารจาก CEO ได้พูดถึงต้นทุนต่างๆ ที่ราคาเพิ่มขึ้น การแข่งขันภายใต้ความเปลี่ยนแปลงที่ผันผวน รวมไปถึงปัจจัยด้านการขาดแคลนทางทรัพยากรบางส่วน

 

อย่างไรก็ตาม ทาง Volvo จะลงทุนพัฒนาความสามารถของบุคลากรที่มีอยู่ ให้พร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลงในอนาคต รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเข้ามาจัดการและลดเวลาในการทำงานต่างๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภค และยังเป็นการเพิ่มศักยภาพของบริษัทไปอีกขั้นด้วย

 

Volvo เองได้มีการกระจายหน่วยงานวิจัยและพัฒนา รวมไปถึงโรงงานประกอบรถยนต์ไปยังภูมิภาคต่างๆ ตามตลาดที่มีขนาดใหญ่ของแบรนด์ โดยสำนักงานจะตั้งอยู่ที่เมือง Gothenburg ประเทศสวีเดน ขณะที่หน่วยงานวิจัยและพัฒนาจะมีจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ เมือง Gothenburg ประเทศสวีเดน เมือง Camarillo สหรัฐอเมริกา และ Shanghai ประเทศจีน ในส่วนของโรงงานผลิตรถยนต์จะตั้งอยู่ที่ เมือง Ghent ประเทศเบลเยียม South Carolina สหรัฐอเมริกา และอีก 3 แห่งในประเทศจีน Chengdu Daqing และ Taizhou ด้วยกำลังการสนับสนุนจากหัวเรือใหญ่อย่าง Geely ทำให้ Volvo มียอดจำหน่ายรถยนต์ตลอดปี 2022 กว่า 615,121 คัน พร้อมผลกำไร 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 74,530 ล้านบาท

ที่มา: Motor1