กระแสรถยนต์ขุมพลังไฟฟ้าล้วนขนาดเล็กที่มีราคาจับต้องได้กำลังดุเดือดเลือดพล่านในประเทศที่ขึ้นชื่อว่าส่งออกรถ EV เบอร์ต้นของโลกในตอนนี้ โดยเฉพาะเมื่อคู่แข่งคู่ปรับสำคัญได้เปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกันระหว่าง BYD Seagull และ Wuling Bingo ซึ่งในมุมน้ำเงินค่าย BYD ได้ เปิดตัวตามหลังเล็กน้อยและเริ่มส่งมอบตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2023 เป็นต้นมา

ซึ่งในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้นับว่ายอดขายของ BYD เป็นไปอย่างน่าพอใจด้วยจำนวนกว่า 128,196 คัน โดยในจำนวนนี้คิดเป็นส่วนแบ่งจากรุ่น Seagull กว่า 23,005 คัน หรือคิดเป็นอัตราส่วนกว่า 18% ของยอดขายรวมทั้งค่าย และยังคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมกว่า 12%

 

BYD Seagull ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวให้กำลังสูงสุด 74 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 135 นิวตัน-เมตร พร้อมความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม ความจุแบตเตอรี่จะแยกระหว่างรุ่นเริ่มต้นที่จะใช้ขนาด 30.08 kWh วิ่งได้ไกลสุด 305 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC ขณะที่รุ่นสูงขึ้นจะขยับมาใช้ขนาด 38.88 kWh วิ่งได้ไกลสุด 405 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC ซึ่งทั้งคู่ใช้เป็นแบตเตอรี่แบบ LFP ที่รองรับการชาร์จเร็วด้วยกำลังไฟฟ้าสูงสุด 30-40 kW ทำให้สามารถชาร์จจาก 30% จนถึง 80% ได้ภายในเวลา 30 นาที

และสำหรับสถิติยอดขายของ BYD Seagull ที่แรกเริ่มตั้งแต่เปิดตัวก็คว้ายอดจองภายในวันไปมากถึง 1,500 คัน ก่อนที่จะพร้อมส่งมอบในเดือนพฤษภาคม ด้วยจำนวนกว่า 14,300 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 23,005 คัน ในเดือนมิถุนายน 2023

Wuling Bingo

เมื่อพิจารณาคู่แข่งตัวฉกาจของ BYD Seagull จะพบว่า Wuling Bingo ที่เปิดตัวไปก่อนหน้าเป็นเวลา 2 เดือน ภายใต้การผลิตจากโรงงานที่เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง GM และ บริษัทสัญชาติจีนอื่นๆ เรียกชื่อใหม่ว่า SGMW มียอดขายในเดือนมิถุนายน 2023 ที่ 19,188 คัน ซึ่งข้อมูลทางเทคนิคจะมีความเสียเปรียบด้านขุมพลังอยู่บ้างเมื่อเทียบกับ Seagull เนื่องจากมอเตอร์ไฟฟ้ามีพละกำลังสูงสุดเพียง 68 แรงม้า แต่ก็สามารถวิ่งได้ไกลสุดถึง 333 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC เช่นเดียวกัน โดยที่มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 59,800 หยวน หรือประมาณ 289,114 บาท

BYD Seagull มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย และมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 73,800 หยวน หรือประมาณ 356,828 บาท ไปจนถึง 89,800 หยวน หรือประมาณ 434,172 บาท

อย่างไรก็ตาม ความแรงของ BYD Seagull ยังเทียบไม่ได้กับรุ่นพี่อย่าง Dolphin ที่มียอดขายในเดือนมิถุนายนกว่า 31,140 คัน และกำลังจะเตรียมเปิดราคาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 กรกฎาคม 2023 นี้ โดยได้ถูกนำเข้ามาถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมส่งมอบล๊อตแรกไม่ต้องรอกันนาน ซึ่ง Dolphin เองก็มีราคาจำหน่ายในประเทศจีนเริ่มต้นที่ 116,800 หยวน หรือประมาณ 564,723 บาท

ที่มา: Carnewschina