เทรนด์การใช้หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่จุใจที่มีขนาดเกินกว่า 10 นิ้ว ขึ้นไป เป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วในยุคสมัยนี้ โดยเฉพาะรถบางรุ่นที่ออกแบบให้จอมาตรวัด จอกลาง และจอสำหรับผู้โดยสารด้านหน้ามีความเชื่อมต่อกันจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของคอนโซลหน้า หรือแม้กระทั่งกินพื้นที่ใหญ่กว่าชิ้นส่วนคอนโซลหลักพอสมควรก็เห็นกันได้ทั่วไป

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีกลุ่มลูกค้าที่ไม่ถูกใจกับการติดตั้งจอขนาดใหญ่เช่นนี้ โดยเฉพาะการปรับลดจำนวนปุ่มควบคุมต่างๆ ให้เหลือเพียงจำนวนน้อยนิด และย้ายการสั่งการไปที่หน้าจอแสดงผลต่างๆ เหล่านี้ และยังมีค่ายรถยนต์อีกจำนวนหนึ่งที่ยังเดินหน้าสำรวจความต้องการของลูกค้าแบรนด์ตน ถึงความคิดเห็นที่จะเปลี่ยนไปใช้จอขนาดใหญ่นี้

 

หนึ่งในนั้นได้แก่ Alfa Romeo ที่ได้ทำการสำรวจและสรุปใจความออกมาได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาดใหญ่ หรือระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่มีความซับซ้อนและยุ่งยากในการใช้งาน รวมทั้งความไม่เป็นธรรมชาติขณะทำงาน กลุ่มลูกค้าของแบรนด์กลับให้ความเห็นในเชิงลบ และไม่ต้องการที่จะให้ Alfa Romeo นำสิ่งต่างๆ เหล่านี้เข้ามาติดตั้งในรถรุ่นใหม่ๆ

ในทางกลับกัน กลุ่มลูกค้าดังกล่าวกลับต้องการภายในที่เรียบง่ายและเป็นมิตรต่อการใช้งาน โดยยังคงไว้ซึ่งรูปแบบของคอนโซลแบบปกติทั่วไป และยังต้องการให้เกจ์วัดต่างๆ ยังคงแยกตัวออกจากหน้าจอกลาง เพื่อไม่ให้สับสนและเวียนหัวยามใช้งาน ยิ่งไปกว่านั้น การเลือกระบบช่วยเหลือการขับขี่ได้ตามต้องการก่อนที่จะเริ่มเดินทาง ไม่ใช่การยุบรวมระบบช่วยเหลือเป็นแพ็คเกจและบังคับเปิดใช้งานทุกครั้งยามสตาร์ทรถ ซึ่งแนวคิดนี้เป็นการตอกย้ำว่า ผู้ขับขี่ต้องการการควบคุมรถแบบเบ็ดเสร็จ ไม่ใช่การโดนระบบต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาทำการเปลี่ยนรูปแบบการควบคุมออกไป

 

ขณะที่ผู้บริหารของ Alfa Romeo ยังคงยืนยันว่า เทคโนโลยีต่างๆ ที่จะติดตั้งในโมเดลในอนาคต จะมีการจัดการโดยเห็นแก่เสียงตอบรับของลูกค้าเป็นสำคัญ โดยเฉพาะฟังก์ชั่นการควบคุมรถให้อยู่ภายในเลนและระบบช่วยควบคุมตัวรถและการหลีกเลี่ยงการชนที่จะสามารถเลือกติดตั้งได้ตามต้องการ ไม่ใช่การยุบรวบเป็นแพ็คเกจกับออฟชั่นอื่นๆ และยังทำการพิจารณาออฟชั่นที่มีผลต่อการควบคุมตัวรถโดยผู้ขับขี่เป็นหลัก

สำหรับแนวทางการติดตั้งเทคโนโลยีในอนาคตอันใกล้นี้ Alfa Romeo จะได้รับการติดตั้ง โครงสร้างเทคโนโลยีชุดใหม่ภายใต้ชื่อ STLA Brain ที่ถูกพัฒนาโดย Stellantis เป็นยี่ห้อแรกของเครือ ที่จะทำการปรับปรุงชุดฟังก์ชั่นและระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่มีมากกว่า 30 ระบบ ให้ทำงานได้อย่างเป็นมิตรและสามารถอัพเดทได้แบบ over-the-air เพื่อให้การแก้ไขปรับปรุงโปรแกรมต่างๆ เป็นไปได้อย่างทันท่วงที

ที่มา: Carscoops