รายงานยอดขายของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั่วโลกจากครึ่งปีแรกของปี 2023 โดยสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลหรือ China Passenger Car Association (CPCA) พบว่ามีรถยนต์ที่ถูกขายไปตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2023 ไปมากกว่า 42.23 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 11% ด้วยสถานการณ์การขาดแคลนชิปประมวลผลที่คลี่คลายอย่างต่อเนื่อง ทำให้สายพานการผลิตรถยนต์สามารถกลับมาเดินหน้าส่งมอบได้ตามกำหนด ตามแผนการผลิตที่ได้ถูกวางแผนเอาไว้

 

โดยเมื่อพิจารณาจากยอดขายของผู้ผลิตรถยนต์หลากสัญชาติ จะพบว่ามีสัดส่วนของผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนมากกว่า 31% ซึ่งเป็นผลพวงมาจากกำลังการผลิตโดยรวมที่สามารถทำได้มากขึ้น หลังจากมีตลาดส่งออกที่ขยายขนาดได้อีก สังเกตได้จากยอดขายในเดือนมิถุนายน ที่มีสัดส่วนกว่า 33% ของยอดขายรถยนต์ทั่วโลก เกิดจากค่ายยักษ์ใหญ่แดนมังกรอย่าง BYD SAIC รวมไปถึงค่ายรถยนต์ท้องถิ่น หรือแม้กระทั่งบริษัทร่วมทุนระหว่างแบรนด์จีนและรถยนต์ต่างชาติ ต่างพร้อมใจกันเดินหน้าสร้างยอดขาย สวนทางกับตลาดอื่นๆทั่วโลก หลังจากมีมาตรการการจัดการกับห่วงโซ่ชิ้นส่วนยานยนต์ที่รองรับปัญหาและการเติบโตได้เป็นอย่างดี

หากย้อนไปช่วงปี 2016-2022 ยอดขายของผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศจีน เริ่มมีส่วนแบ่งจากยอดขายรถยนต์ทั่วโลกในระดับ 30% ขึ้นไป โดยในปี 2019 มีลดลงเหลือ 29% แต่ในปี 2020-2021 ก็กลับมารักษาสัดส่วนไว้ได้ที่ 32% โดยเมื่อถึงปี 2022 ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 33% สูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

ในทางกลับกัน แนวโน้มยอดขายของรถยนต์ในตลาดอื่นๆ ทั่วโลก พร้อมใจกันลดลงหลังจากปี 2018 เป็นต้นมา เนื่องด้วยวิกฤตการณ์การขาดแคลนชิ้นส่วน ประกอบกับวิกฤติโรคระบาด COVID-19 ทำให้ยอดขายในภาพรวมกว่าจะกลับมาในช่วงขาขึ้นต้องใช้เวลาพอสมควร และเห็นได้ชัดในปี 2023 นี้ ที่ภาพรวมของตลาดมีแนวโน้มไปในทางบวก โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายน 2023 นี้

 

ขณะที่ 10 อันดับของผู้ผลิตรถยนต์ในตลาดโลก ได้แก่ Toyota Volkswagen Hyundai-Kia Stellantis Renault-Nissan GM Ford Honda Suzuki และ Mercedes-Benz ขณะที่ในตลาดประเทศจีน 10 อันดับดังกล่าวจะเปลี่ยนเป็น Volkswagen BYD GM Changan Geely Toyota Chery SAIC Honda และ Great Wall สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ในตารางแรกแท้จริงแล้วมีอันดับที่ 11 เป็น BYD เนื่องจากยอดขายกำลังมาแรงแซงโค้งจนคาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้ อาจจะติด Top 10 ในระดับสากลก็เป็นได้

 

ที่มา: Carnewschina