National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA) หน่วยงานด้านความปลอดภัยบนท้องถนนของสหรัฐฯ ได้ทำการศึกษาและวิจัยเรื่องราวเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนมาตลอดระยะเวลาที่รถยนต์เริ่มหันมาใส่ใจความปลอดภัยในการเดินทางมากขึ้น ทั้งยังทำการทดสอบความปลอดภัยทุกรูปแบบกับรถยนต์ที่วางจำหน่ายใหม่ในแต่ละปี

ล่าสุดกับมาตรการที่ทาง NHTSA เตรียมนำเสนอเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเข้มงวดมากขึ้นของการทำงานของระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อยกระดับการแจ้งเตือนให้ผู้โดยสารทั้งคันจำเป็นต้องคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนการเดินทาง แน่นอนว่าการคาดเข็มขัดให้ครบทุกที่นั่งที่มีผู้โดยสารอยู่ ย่อมลดความเสี่ยงที่เกิดจากอุบัติเหตุ และเป็นการปล่อยให้ระบบความปลอดภัยของตัวรถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

ถึงแม้ว่าระเบียบข้อบังคับในปัจจุบัน จะระบุให้ต้องมีระบบเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้ขับขี่เท่านั้น แต่สำหรับผู้โดยสารอื่นๆ ให้เป็นทางเลือกในการติดตั้งตามความสมควร แต่ก็มีค่ายรถยนต์หลากค่าย ที่ได้ทำการทยอยติดตั้งระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยให้ครบทุกที่นั่ง

โดยทาง NHTSA ได้อ้างว่า ระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง จะช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุที่อาจค่าชีวิตในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลได้มากกว่า 55% และกว่า 74% ในรถยนต์โดยสารสาธารณะและรถตู้ นอกจากนี้ยังได้มีการคาดการณ์อีกว่า จะสามารถช่วยไม่ให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตได้มากกว่า 100 ราย ต่อปี เมื่อพิจารณาจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตของผู้โดยสารด้านหลังในแต่ละปี

 

ข้อมูลจริงจากปี 2021 ที่พบว่ามีการสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนกว่า 43,000 ราย โดยกว่าครึ่งหนึ่งไม่มีการคาดเข็มขัดนิรภัย จึงทำให้เห็นความสำคัญโดยตรงว่า การคาดเข็มขัดนิรภัยมีความสำคัญมากกว่าที่คาดคิด

นอกจากนี้ NHTSA ยังมีการเตรียมกฎใหม่สำหรับระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า โดยระบบเสียงเตือนจะยังไม่เงียบลงหากผู้โดยสารยังคงไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่ใช่การดังเพียงแค่ชั่วครู่หนึ่งเท่านั้น และสำหรับการขยายผลบังคับใช้ไปยังผู้โดยสารทั้งคันรถจะเริ่มทำการรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะได้รับกาเรห็นชอบ ซึ่งจะนับระยะเวลาหลังจากอนุมัติไปอีก 2 ปี เพื่อให้บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ได้เตรียมตัวในการติดตั้งในรถยนต์ใหม่ของตน

ที่มา: Carscoops