ยอดขายรถปิคอัพ 7 เดือนแรกของปี 66 แพ้ทางเก๋งเป็นครั้งแรกในอุตฯยานยนต์ไทย เหตุจากไฟแนนซ์คุมเข้มปล่อยสินเชื่อ เผยเก๋งได้อานิสงส์จากตลาดรถอีวีที่โตทะลุ 1,600% เป็นแรงส่ง

 

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ช่วง 7 เดือน (มกราคม – กรกฎาคม 2566) มียอดขาย 464,550 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2565 ที่ 5.45% โดยปัจจัยหลักมาจากการทรุดตัวของยอดขายรถปิคอัพ 1 ตัน ( Pure Pick ) ที่มียอดเพียง 169,994 คัน ลดลง 25.46% ขณะที่รถยนต์นั่งขายได้ 170,598 คัน เติบโต 10%

“ นี่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ยานยนต์ไทยที่ยอดเก๋งสูงกว่ารถปิคอัพ หนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้น คิดเป็น 90.6% ของจีดีพี ทำให้สถาบันการเงินเพิ่มความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ กลุ่มรากหญ้า เกษตรกรและเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบมากสุด ส่งผลให้ยอดขายรถกระบะในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น ยอดขายรถจึงเป็นไปตามกลไกเศรษฐกิจ แต่สถานการณ์น่าจะดีขึ้นหลังจากการพลิกฟื้นของเศรษฐกิจประเทศในช่วงปีหน้า คงต้องฝากความหวังรัฐบาลชุดใหม่มากระตุ้นเศรษฐกิจ และแก้ไขปัญหาโดยไว

อย่างไรก็ตามเดือนกรกฎาคม 2566 ยังมียอดส่งออกได้ 108,052 คัน รวม 7 เดือนแรก ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 636,868 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 19.55% รวมมูลค่าส่งออกยานยนต์ทั้งระบบ 533,383.13 ล้านบาท ถือเป็นทิศทางที่ดี ”

 

สำหรับยอดขายรถช่วง 7 เดือนของปี 66 นี้ เมื่อแบ่งตามประเภทเครื่องยนต์ มีดังนี้

  • รถยนต์สันดาปภายใน (ICE) มียอด 381,453 คัน
    • ลดลงจากปีที่แล้ว -15.78%
  • รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 35,781 คัน
    • เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว +1,605.48%
  • รถยนต์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 1,454 คัน
    • เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว +39.54%
  • รถยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 45,862 คัน
    • เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว +30.02%

ขอบคุณข้อมูลจาก กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ / Automotive Industry Club