Skoda เผยข้อมูลของรถเรือธงที่มียอดขายสะสมไม่น้อยหน้ารุ่นน้องตัวถัง Hatchback และ SUV อย่างรุ่น Superb ที่ทยอยเปิดเผยข้อมูลทีละนิดทีละหน่อย โดยครั้งนี้เป็นคิวของตัวถัง Liftback ที่ยังคงเอกลักษณ์เส้นสายบริเวณหลังคาและฝากระโปรงท้ายในรูปแบบรถซีดานเหมือนรุ่นก่อนหน้า โดยตัวรถได้ถูกขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นในด้านความยาวและความสูง เพื่อให้ห้องโดยสารมีความโปร่งมากยิ่งขึ้น
Skoda ได้ปรับปรุงให้ตัวรถมีความเพรียวลมมากกว่ารุ่นปัจจุบัน พร้อมด้วยตัวเลขค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd.) เพียง 0.24 อย่างไรก็ตาม ฝากระโปรงท้ายยังคงเปิดแบบยกขึ้นชิ้นเดียว ไม่ใช่แบบแยกส่วนเปิดได้ในรูปแบบรถซีดานเหมือน Superb รุ่นที่ 2 แต่อย่างใด

มิติตัวรถ

  • ความยาว 4,912 มิลลิเมตร (liftback) และ 4,902 มิลลิเมตร (wagon)
  • ความกว้าง 1,849 มิลลิเมตร
  • ความสูง 1,481 มิลลิเมตร (liftback) และ 1,482 มิลลิเมตร (wagon)
  • ระยะฐานล้อ 2,841 มิลลิเมตร

Skoda รุ่น Liftback มาพร้อมภายในที่ใช้ร่วมกันกับรุ่นแวกอน Combi ยกเว้นพื้นที่เก็บสัมภาระที่มีความจุ 645 ลิตร ซึ่งน้อยกว่าของรุ่นแวกอน Combi อยู่ 45 ลิตร โดยยังอัดแน่นไปด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ครบครัน ตามแบบฉบับ Skoda พร้อมด้วยรุ่นย่อยดังนี้ Essence Selection Sportline และ Laurin & Klement ที่เน้นความหรูหราขั้นสุด

 

ขุมพลังที่ถูกเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการออกมาก่อนเมื่อครั้งเปิดตัวรุ่นแวกอน จะเริ่มต้นที่เครื่องยนต์เบนซิน Mild-hybrid TSI เป็นแบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DSG 7 จังหวะ ตามมาด้วย เครื่องยนต์เบนซิน TSI เป็นแบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (PS) ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และ 265 แรงม้า (PS) ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ทั้ง 2 เวอร์ชั่นจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DSG 7 จังหวะ

 

อย่างไรก็ตามยังคงเหลือเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือกอยู่กับเครื่องยนต์ TDI Commonrail เป็นแบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังรวมสูงสุด 204 แรงม้า (PS) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ DSG 6 จังหวะ ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ความจุ 25.7 kWh ที่สามารถวิ่งได้ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ไกลสุด 100 กิโลเมตร พร้อมการชาร์จผ่านไฟกระแสสลับ AC กำลังสูงสุด 11 kW และ ไฟกระแสตรง DC กำลังสูงสุด 50 kW

และเช่นเดิมสำหรับรุ่น plug-in hybrid หรือรุ่นย่อย Superb iV ที่มีให้เลือกเฉพาะตัวถังแวกอน จะใช้ เครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร

Skoda จะพร้อมเปิดตัว Superb ทั้ง 2 รูปแบบตัวถังในเดือนพฤศจิกายน 2023 นี้

ที่มา: Carscoops