BYD กำลังรุกตลาดนอกประเทศบ้านเกิดอย่างเต็มกำลัง โดยเฉพาะกับตลาดล่าสุดประเทศบราซิลที่ใช้เวอร์ชั่นพวงมาลัยซ้าย โดยกวาดยอดขายไปได้มากกว่า 656 คัน ตลอดเดือนสิงหาคม 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่ายอดขายของรถ EV แบรนด์อื่นๆ ในตลาดบราซิลรวมกันที่ขายไปได้ทั้งหมด 511 คัน โดยสร้างความตื่นตาให้กับตลาดรถประเทศบราซิล เนื่องจากไม่เคยมีการเจาะตลาดด้วยแบรนด์ประเทศจีนได้เพียงนี้ รวมไปถึงตลาดรถ EV ที่กำลังเข้ามาใหม่และยังต้องการปัจจัยสนับสนุนอีกหลายประการ

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาทางเลือกที่ BYD มีให้ชาวบราซิลได้จับจ่ายรถทั้งรูปแบบขุมพลังไฟฟ้าล้วนและ Plug-in hybrid จะพบว่าไลน์อัพในบราซิลประกอบได้ด้วยรถยนต์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ Tang EV Han EV Atto 3 Dolphin Song Plus DM-i และล่าสุดกับ Seal ขุมพลังไฟฟ้าล้วน

นอกจากนี้ การเตรียมขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายในประเทศบราซิลที่ BYD ได้ตั้งเป้าไว้ 100 แห่ง ภายในปี 2023 นี้ เพื่อให้รองรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะยอดขายและยอดจองจาก Dolphin ที่กวาดไปได้มากกว่า 4,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัว จนขึ้นแท่นแชมป์ยอดขายประเภทรถ EV เป็นรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ตลาดรถประเทศบราซิล

สำหรับ BYD Dolphin เวอร์ชั่นที่จำหน่ายในประเทศบราซิล จะมีหน้าตาแตกต่างจากเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในประเทศไทย เนื่องจากใช้ร่วมกันกับเวอร์ชั่นประเทศจีน โดยจะเห็นความแตกต่างได้จากกันชนหน้าที่มีเส้นสายโฉบเฉี่ยวมากกว่าเล็กน้อย ทั้งนี้ ยังคงใช้ขุมพลังไฟฟ้าล้วนชุดเดียวกัน ซึ่งมีให้เลือกเพียงรุ่น Standard Range จะมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 94 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 180 นิวตัน-เมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่แบบ LFP เทคโนโลยี Blade CTB (Cell-to-body) ความจุ 44.9 kWh สามารถให้ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จ 291 กิโลเมตร ตามมาตรฐานของ National Institute of Metrology, Standardization, and Industrial Quality ประเทศบราซิล ซึ่งนับว่าเป็นรถ EV ที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานสูงสุดในขณะนี้

เช่นเดียวกันกับ BYD Song Plus DM-i ที่ขึ้นแท่นรถ Plug-in hybrid ที่ขายดีที่สุดในประเทศบราซิลเช่นเดียวกัน และทาง BYD ได้เล็งเห็นศักยภาพของประเทศบราซิล จึงได้เตรียมลงทุนเปิดโรงงานประกอบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์เพิ่มเติมรวมทั้งสิ้น 3 แห่ง เพื่อเสริมทัพรากฐานในบราซิลให้แข็งแกร่ง หลังจากเปิดโรงงานผลิตแผงโซลาร์เซลล์ไปก่อนหน้านี้

ที่มา: Carnewschina