BYD เปิดตัว Dolphin ในฐานะรถ Hatchback ขุมพลังไฟฟ้าล้วนเพื่อจับตลาดกลุ่ม B-segment ที่เริ่มมีกำลังซื้อและความสนใจรถ EV ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2021 โดยในช่วงเปิดตัวในประเทศจีน ยังมียอดขายไปได้แบบเรื่อยๆ ไม่ถึงกับเปรี้ยงปร้างเหมือนเช่นปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อเดือนแรกที่ขายได้เพียง 1,755 ต่อเดือน จนกระทั่งค่อยๆ ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และได้มีการส่งออกไปจำหน่ายยังตลาดนอกประเทศภายในระยะเวลาอันสั้น และเพิ่มขึ้นเป็น 32,745 คัน ในเดือนสิงหาคม 2023 ที่ผ่านมา

โดยเฉพาะตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอเมริกาใต้ ที่ทาง BYD ได้ยึดหัวหาดไว้ทั้งรุ่นพี่อย่าง ATTO 3 จนขึ้นแท่นรถ EV ที่ขายดีที่สุดในหลายประเทศมาแล้วในช่วงต้นปี 2023 จนถึงปัจจุบัน หากพิจารณายอดส่งออกในปีแรกของการเปิดตัวหรือปี 2021 BYD มีกำลังส่งออกเพียงแค่ 27 คัน และเพิ่มขึ้นเป็น 1,303 คัน ในปี 2022 จนกระทั่งเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเป็น 28,387 คัน นับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนสิงหาคมปี 2023 นี้

หน้าตาของ BYD Dolphin จะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค โดยเฉพาะในตลาดรถพวงมาลัยขวาที่จะมีการออกแบบกันชนหน้าให้แตกต่างออกไปจากเวอร์ชั่นพวงมาลัยซ้าย ดังจะเห็นได้จากความแตกต่างของเวอร์ชั่นจีนและไทย รวมไปถึงเวอร์ชั่นสหราชอาณาจักร

ยิ่งไปกว่านั้นในระหว่างการทำตลาดเป็นเวลา 2 ปี ได้มีการเพิ่มสีตัวถัง สีเหลือง Cheese Yellow และสีม่วง Taro Purple (ที่มีวางจำหน่ายในบ้านเรา)

BYD แบ่งการทำตลาด Dolphin ออกเป็น 2 รุ่น ย่อย ได้แก่ Standard Range และ Extended Range ขึ้นอยู่กับตลาดแต่ละประเทศ ได้แก่

รุ่น Standard Range

ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว กำลังสูงสุด 94 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 180 นิวตัน-เมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Blade CTB (Cell-to-body) ความจุ 44.9 kWh รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 7 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 60 kW ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จ 400 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTC)

รุ่น Extended Range

ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Blade CTB (Cell-to-body) ความจุ 58.56 kWh รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 7 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 80 kW ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จ 476 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTC)

BYD Dolphin วางจำหน่ายในประเทศจีนด้วยราคา 111,000 – 131,000 หยวน หรือประมาณ 544,737 – 642,888 บาท

ที่มา: Carnewschina