มูลนิธิ Audi Environmental ร่วมกับมูลนิธิ Ferry Porsche Foundation ผนึกกำลังนำร่องโปรเจคกำจัดขยะในแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านการส่งเสริมให้หน่วยงานเอกชนอย่าง everwave ของเยอรมันและ มูลนิธิ TerraCycle ประเทศไทย ด้วยการส่งเรือที่ออกแบบเป็นพิเศษ ติดตั้งอุปกรณ์จัดเก็บขยะที่มีกำลังมากกว่า 5 ตันต่อวัน ซึ่งได้เริ่มการเก็บขยะตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2023 ที่ผ่านมา เป็นระยะเวลากว่า 5 เดือน นับว่าเป็นการวางรากฐานการจัดการกับขยะในแม่น้ำสายหลังและลำคลองสายย่อย เพื่อปรับภาพลักษณ์และสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับกรุงเทพมหานคร

 

หากพิจารณาแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านทางด้านตะวันตกของกรุงเทพมหานครเป็นระยะทางกว่า 35 กิโลเมตร ก่อนที่จะไหลออกสู่อ่าวไทย จะพบว่ามีขยะประเภทพลาสติกจำนวนกว่า 385 กัน ที่ไหลลงสู่น่านน้ำปากอ่าว ซึ่งการทิ้งขยะอย่างไร้จิตสำนึก ทำให้เป็นจุดกำเนิดของกองพลาสติกมหาศาลไหลลงสู่น่านน้ำไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นับว่าเป็นความพยายามครั้งที่ 3 แล้ว จากความร่วมมือระหว่าง มูลนิธิ Audi Environmental และหน่วยงานเอกชนอย่าง everwave ของเยอรมัน โดยมีจุดมุ่งหมายในการต่อสู้กับขยะพลาสติกในแหล่งน้ำที่อยู่ใจกลางชุมชน และยังตั้งใจที่จะนำจุดเริ่มต้นของโครงการนี้ เป็นไอเดียให้หน่วยงานท้องถิ่นนำไปต่อยอดในระยะยาว

 

เรือของ everwave ที่มีชื่อว่า CollectiX garbage ที่ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับขยะไม่ว่าจะเป็นโดรน กล้อง และหน่วยประมวลผล AI เพื่อที่จะวิเคราะห์และตรวจจับกลุ่มขยะขนาดใหญ่พอที่จะเข้าไปดักจับได้ และยังได้จัดจ้างพนักงานขับเรือ 2 ตำแหน่งเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นบุรุษสัญชาติไทยในการควบคุมเจ้าเรือนี้ ก่อนที่จะขนถ่ายขยะทั้งหมดไปยังชายฝั่งที่มีพื้นที่ในการแยกขยะ โดยได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิ TerraCycle ประเทศไทย เนื่องจากเป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บขยะด้วยกำลังคนมาก่อนหน้านี้โดยใช้อวนและแห

ยิ่งไปกว่านั้น ยังเดินหน้าสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนริมแห่งน้ำ ถึงผลกระทบของการทิ้งขยะอย่างไม่ถูกต้อง และการย้ำให้ตระหนักถึงสิ่งเล็กๆ ที่สามารถเปลี่ยนได้ที่มนุษย์เพียง 1 คน แต่ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อสิ่งแวดล้อมได้ เพราะต่อให้มีเรือช่วยขนย้ายขยะมากเพียงใด แต่ประชาชนลุ่มน้ำยังคงประพฤติเช่นเดิมอยู่ ก็คงจะไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นจนได้

 

การให้ความรู้กับหน่วยงานท้องถิ่นทางด้านการจัดการขยะที่กำจัดออกมาจากแหล่งน้ำได้ก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่ทางคณะทำงานมุ่งหวังให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดนได้สร้างองค์ความรู้ที่สามารถนำไปต่อยอดในอนาคตได้

ที่มา: Audi