BYD รุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างหนักหน่วงดังจะเห็นได้ว่ายอดขายในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยชูจุดเด่นด้วยราคาจำหน่ายที่เข้าถึงง่าย พร้อมด้วยบริการหลังการขายที่มีทีมงานคอยช่วยเหลือและดูแลลูกค้าทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านอย่างเต็มความสามารถ ดังจะเห็นได้จากปัญหาที่เกิดในช่วงระยะเวลาไม่นานมานี้ แต่ทางตัวแทนจำหน่ายก็สามารถจบเคสได้โดยที่ลูกค้าไม่ติดใจเอาความ

ทั้งหมดนี้ต้องเท้าความไปถึงแรกเริ่มเดิมทีที่ทางค่าย BYD ตัดสินใจได้รุกตลาดประเทศที่กำลังมีการสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ขุมพลังไฟฟ้าล้วน โดยภาครัฐได้ออกนโยบายกระตุ้นให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาเปิดตัวผลิตภัณฑ์และได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีในช่วงแรก ก่อนที่จะต้องทำตามข้อกำหนดทางด้านการตั้งโรงงานผลิตภายในประเทศเหล่านั้น

 

และด้วยความตั้งใจและการเอาจริงเอาจังกับการรุกตลาดนอกประเทศจีนของค่าย BYD สะท้อนให้เห็นถึงยอดขายทั้งหมดในไตรมาสที่ 2 ของปี 2023 นี้ ซึ่งหากอ้างอิงจากรายงานของสำนักข่าว Reuters จะพบว่ายอดขายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 26% ของยอดขายรวมทั้งหมดของค่าย BYD โดยในจำนวนนี้มีรถยนต์อเนกประสงค์รุ่น ATTO 3 ยืน 1 ทางด้านแชมป์ที่กินส่วนแบ่งมากถึง 6.4% ของยอดขายในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากนี้ยังมีแหล่งข่าวได้วิเคราะห์กลยุทธ์ที่ทางค่าย BYD ได้นำมาใช้กับภูมิภาคนี้ จนค้นพบว่ามีการตั้งเป้าหมายทางด้านการขยายอาณาเขตของผู้แทนจำหน่ายและการเอาใจใส่ลูกค้ามากกว่าที่จะเน้นกำไรเป็นอันดับแรก

 

ยิ่งไปกว่านั้นการลงทุนที่ต้องทำตามข้อตกลงของรัฐบาลประเทศไทยจึงทำให้ byd ต้องทุ่มเม็ดเงินมหาศาลกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อที่จะจัดตั้งโรงงานประกอบรถ EV ที่มีกำลังการผลิตสูงถึง 150,000 คันต่อปีนับตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป สำหรับความร่วมมือกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทาง byd ได้จับมือกับ Sime Darby ในประเทศมาเลเซีย Ayala Corp ประเทศฟิลิปปินส์และ Bakrie & Brothers ประเทศอินโดนีเซีย

ด้วยกลยุทธ์การใช้ตัวแทนจำหน่ายที่มากประสบการณ์ในแต่ละประเทศในภูมิภาคนี้จะเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้เล่นหน้าใหม่จากประเทศจีนจนทำให้ผู้บริโภคเปิดใจและไว้วางใจในงานบริการ พร้อมด้วยการรองรับการแก้ปัญหาต่างๆหลังการขายอย่างมืออาชีพ

 

ปิดท้ายด้วยยอดขายของ BYD ในประเทศไทยที่โตวันโตคืนยึดหัวหาดแชมป์ยอดขายรถยนต์กลุ่มพลังไฟฟ้าล้วนกันได้ทุกเดือน สามารถสะท้อนเป็นตัวเลขส่วนแบ่งของยอดขายนอกประเทศจีนเป็นสัดส่วนสูงถึง 24 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2023 นี้ นับว่าเป็นพัฒนาการที่น่าจับตามองท่ามกลางสงครามรถ EV ในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังเต็มไปด้วยผู้เล่นจากประเทศจีนด้วยกันเองต่างตบเท้าเข้ามารับข้อเสนอจากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลและพร้อมที่จะแย่งชิงส่วนแบ่งจากยักษ์ใหญ่อย่าง BYD

ที่มา: Carscoops