Mercedes-Benz เอาใจแฟนๆ คนรัก SUV ทรงท้ายลาดสมรรถนะสูง ด้วยการเปิดตัว Mercedes-AMG GLC 63 S E Performance Coupe และ GLC 43 Coupe หรือเวอร์ชั่นคูเป้ท้ายลาดของทั้ง Mercedes-AMG GLC 63 S E Performance 43 และ GLC 43 ที่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2023 ขณะที่เวอร์ชั่นขุมพลังปกติของ GLC Coupe เปิดตัวเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2023

งานออกแบบภายนอกโดยเฉพาะด้านหน้าไม่มีความแตกต่างกับเวอร์ชั่นท้ายปกติเท่าไรนัก ไล่ตั้งแต่กระจังหน้าและไฟคู่หน้า กันชนหน้าที่มีเส้นสายเดียวกันไม่ผิดเพี้ยน จะแตกต่างกันที่เส้นสายด้านข้างที่มาพร้อมกับดีไซน์กรอบกระจกที่พริ้วไหวกว่ารุ่นปกติ ทำให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Coefficient Drag) ที่ลดลงจาก 0.30 ในรุ่นที่แล้ว เหลือเพียง 0.27 และมีการติดตั้งตำแหน่งช่องชาร์จไฟฟ้าของรุ่น Plug-in Hybrid อยู่เหนือซุ้มล้อหลังฝั่งซ้าย สำหรับหัวชาร์จแบบ Combo สำหรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC บั้นท้ายมาพร้อมชุดไฟท้ายทรงเรียวยาวคล้ายกับรุ่นพี่อย่าง GLE Coupe ฝาท้ายถูกออกแบบให้มีสปอยเลอร์ตูดเป็ดในตัว แต่ยังไม่ได้ติดตั้ง Active Spoiler แบบไฟฟ้ามาให้

GLC 43 4MATIC Coupe

ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วในรุ่น 43 4MATIC ในขณะที่รุ่น 63 S E Performance จะถูกอัพเกรดเป็นขนาด 20 นิ้ว ในส่วนของด้านท้ายที่ 43 4MATIC จะมาพร้อมปลายท่อคู่ทรงกลม แต่รุ่น 63 S E Performance จะติดตั้งปลายท่อทรงเหลี่ยมออก 4 รูทรงดุดัน ช่วงล่างที่ได้รับการอัพเกรดตั้งแต่รุ่น 43 4MATIC ด้วยการติดตั้ง AMG Ride Control system พร้อมระบบบังคับเลี้ยวที่ล้อคู่หลัง และช่วงล่างถุงลมเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

GLC 63 S E Performance Coupe

GLC 43 4MATIC Coupe

GLC 63 S E Performance Coupe

 

มิติตัวรถ

  • ความยาว 4,792 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง 1,920 มิลลิเมตร
  • ความสูง 1,603 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ 2,888 มิลลิเมตร
  • พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง 544 ลิตร (ในรุ่น 43) และ 391 ลิตร (ในรุ่น 63)

GLC 43 4MATIC Coupe

GLC 63 S E Performance Coupe

ภายในได้รับการติดตั้งระบบเชื่อมต่อและความบันเทิงเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด MBUX ที่เปิดตัวไปก่อนหน้าในรุ่นปกติ แต่ได้เพิ่มเติมการแสดงผลข้อมูลการขับขี่และข้อมูลสถานะตัวรถที่จำเป็นต่อการขับขี่แบบสมรรถนะสูงมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการใส่กราฟิกเฉพาะจาก AMG ในจอแสดงผลต่างๆ ทั้งจอมาตรวัดผู้ขับขี่ จอกลางและจอ head-up display พร้อมโปรแกรมการบันทึกข้อมูลตัวรถและเวลาต่อรอบในสนามแข่ง

นอกจากนี้ยังมาพร้อมเบาะนั่งออกแบบมาเป็นพิเศษเฉพาะ AMG หุ้มด้วยหนัง Nappa พร้อมประทับตรา AMG ที่พนักพิงศีรษะคู่หน้า แต่ถ้ายังไม่โดนใจยามซิ่ง ยังมีออฟชั่นเบาะนั่งแบบ Performance seat ให้เลือกอีกด้วย

GLC 43 4MATIC Coupe

โดยรุ่นน้องอย่าง 43 4MATIC Coupe จะใช้เครื่องยนต์รหัส M139 เบนซิน 4 สูบเรียง วางตามยาว ขนาด 2.0 ลิตร 1,991 ซีซี กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 83.0 x 92.0 มิลลิเมตร จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์แบบผสมผสานระหว่าง ฉีดตรงสู่ห้องเผาไหม้และฉีดก่อนเข้าห้องเผาไหม้ที่ท่อร่วมไอดี อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 พ่วงเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบไฟฟ้า Electric exhaust gas turbochargerและมอเตอร์สตาร์ท belt-driven starter-generator (RSG) 48V กำลังสูงสุด 422 แรงม้า (PS) (PS) ที่ 6,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า 48V ให้กำลังสูงสุดชั่วขณะ 14 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ AMG SPEEDSHIFT MCT (Multi-Clutch Transmission) 9G พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC แบบ Rear-biased torque distribution ที่กระจายอัตราส่วน หน้า:หลัง ที่ 39:61

  • อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 4.8 วินาที
  • ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง

GLC 63 S E Performance Coupe

ขุมพลังของ Mercedes-AMG GLC 63 S E Performance ถูกอัพเกรดเป็นเครื่องยนต์เบนซิน รหัส M139L ที่มีพื้นฐานเดียวกันในส่วนของกลไกต่างๆ รวมไปถึงระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิง กำลังสูงสุด 476 แรงม้า (PS) ที่ 6,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 545 นิวตัน-เมตร ที่ 5,250 – 5,500 รอบ/นาที เสริมด้วยแบตเตอรี่ขนาด 6.1 kWh และ มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร เมื่อรวมกำลังทั้งระบบ จะได้กำลังสูงสุด 680 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 1,020 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT MCT 9G 9 จังหวะ ขับเคลื่อนสี่ล้อ AMG Performance 4MATIC+ พร้อมระบบกระจายแรงบิดแปรผัน รวมไปถึงการปรับให้กระจายแรงบิดสู่ล้อคู่หลังได้เต็ม 100%

  • อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.5 วินาที
  • ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 275 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Mercedes-AMG ยังไม่เปิดราคาจำหน่ายของทั้ง 2 รุ่น แต่ได้กล่าวเพียงว่า GLC 43 Coupe 4MATIC จะถูกวางจำหน่ายก่อนในช่วงต้นปี 2024 ขณะที่รุ่น GLC 63 S E Performance Coupe จะตามมาในภายหลังช่วง ปลายปี 2024

ที่มา: Mercedes-Benz