เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2023 Mazda เปิดตัวรุ่นปรับโฉมของ MX-5 หรือ Miata ในตลาดญี่ปุ่น โฉมปัจจุบันรหัสตัวถัง ND3 ต่อจากรุ่นปัจจุบัน ND2 ที่เปิดตัวในปี 2019 พร้อมด้วยการอัพเกรดเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่มีพละกำลังมากขึ้น โดยในรหัส ND3 จะเน้นไปที่การปรับงานออกแบบด้านหน้าและด้านท้ายใหม่ โดยเฉพาะไฟหน้า LED ที่มาพร้อมไฟ DRL แบบประกอบเข้าชุดกับโคม โดยไม่ต้องติดตั้งไฟ DRL แบบแยกส่วนเหมือนรุ่นปัจจุบัน ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2015 เมื่อครั้งเปิดตัวรหัสตัวถังแรก ND1 ขณะที่ไฟท้ายมาพร้อมการออกแบบใหม่ใช้ LED ล้วนทั้งโคม

 

สำหรับการอัพเดทอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย ได้เพิ่มเติมเรดาร์ที่บริเวณกระจังหน้าสำหรับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมระบบช่วยเบรก โดยมาพร้อมสีภายนอกใหม่ สีเทา Aero Gray Metallic พร้อมด้วยล้ออัลลอยขนาด 16 หรือ 17 นิ้ว ออกแบบใหม่

 

ขณะที่ภายในมาพร้อมการอัพเกรดหน้าจอกลางขนาด 8.8 นิ้ว เช่นเดียวกับ Mazda 2 และ CX-3 ที่เพิ่งจะเปิดตัวเมื่อปลายเดือนกันยายน 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งยังมีการออกแบบคอนโซลหน้าใหม่ให้เข้ากับหน้าจอ หน้าจอใหม่นี้ยังทำให้คอนโซลหน้ามีการออกแบบใหม่ที่ดูทันสมัยยิ่งขึ้น พร้อมด้วยโทนสีที่เพิ่มเข้ามาใหม่ เป็นสีเบจและสีน้ำตาล ทำให้ตัวรถมีความคลาสสิคมากยิ่งขึ้น

พร้อมเพิ่มเติมความทันสมัยด้วยกระจกมองข้างขอบบางตามสมัยนิยม ปุ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน เพิ่มช่องชาร์จ USB-C

 

ไฮไลท์ของ Miata ND3 ยังมาพร้อมการติดตั้ง limited-slip differential ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่เพื่อให้เข้าชุดกันกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ พร้อมด้วยการปรับแต่งการตอบสนองของพวงมาลัยไฟฟ้า เพื่อให้เป็นธรรมชาติและตอบโจทย์การขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมด้วยการเพิ่มโหมดการขับขี่ DSC-Track สำหรับการลงในสนามแข่งได้อย่างสนุกสนานยิ่งขึ้น

 

นอกจากนี้เครื่องยนต์ความจุ 1.5 ลิตร สำหรับตลาดญี่ปุ่น ยังได้รับการปรับแต่งให้มีพละกำลังเพิ่มขึ้น 4 แรงม้า เมื่อใช้เชื้อเพลิง Hi-octane ขณะที่เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ยังได้รับการปรับแต่งให้สอดคล้องกับเกียร์ธรรมดาและชุด limited-slip differential ปรับปรุงใหม่ เพื่อมอบอัตราเร่งที่ตอบสนองไวยิ่งขึ้น

 

สำหรับใครที่รอรุ่น All-new ของ MX-5 หรือ Miata คงต้องบอกว่ายังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน และสอดคล้องกับที่ Mazda ได้เตรียมพัฒนาให้รุ่นต่อไปมาพร้อมขุมพลังที่พ่วงระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เพื่อให้ผ่านมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวดในอนาคตได้

ที่มา: Motor1