Mercedes-Benz เปิดตัว AMG GLA 45 S รุ่นปรับโฉม ตามวาระและอายุตลาดที่เข้ามาสู่ช่วงกลางเจเนอเรชั่น หลังจากเปิดตัวรุ่นปรับโฉมในเวอร์ชั่นปกติและ AMG 35 ไปเมื่อเดือนมีนาคม 2023 ที่ผ่านมา ด้วยการเพิ่มทางเลือกขุมพลัง Mild-hybrid ในรุ่นปกติ อย่างไรก็ตาม รุ่น AMG 35 ที่พกแรงม้ามาเป็นจำนวน 306 ตัว ก็อาจไม่พอสำหรับแฟนๆ อีกหลายท่าน ค่ายดาว 3 แฉกจึงได้เปิดตัวเวอร์ชั่น AMG 45 S เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2023 ที่ผ่านมา

 

งานออกแบบภายนอกมาพร้อมกันชนหน้าชุดใหม่ พร้อมด้วยการเปลี่ยนโลโก้ตราดาวบนฝากระโปรงหน้า เป็นโลโก้เฉพาะจาก AMG ขณะที่รายละเอียดภายในโคมไฟหน้าที่ถูกปรับปรุงใหม่ แต่ยังคงใช้โคมไฟชุดเดิม ขณะที่ด้านข้างยังได้ทำการเปลี่ยนลายล้ออัลลอยใหม่ มาพร้อมขนาดมาตรฐาน 20 นิ้ว และสามารถอัพเกรดเป็นขนาด 21 นิ้วได้ รวมไปถึงการเปลี่ยนชุดสีของพลาสติกซุ้มล้อใหม่ จากเดิมที่ใช้สีดำพลาสติก จึงได้เปลี่ยนไปใช้สีเดียวกับตัวถังแทน ขณะที่ด้านท้ายยังมาพร้อมการเปลี่ยนรายละเอียดโคมไฟท้ายใหม่ ให้เข้าชุดกันกับกันชนหลังใหม่เช่นเดียวกับด้านหน้า

 

ภายในมาพร้อมพวงมาลัยจาก AMG Performance เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมด้วยหน้าจอมาตรวัดขนาด 10.25 นิ้ว และจอกลางขนาด 10.25 นิ้วจะถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ MBUX รุ่นล่าสุด และช่องเสียบ USB-C เพิ่มเติม ที่ติดตั้งการเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สายมาจากโรงงาน พร้อมฟังก์ชั่น Mini games เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าสามารถร่วมสนุกกับการเล่นเกมส์ขณะรถจอดหยุดนิ่งได้ เช่น Sudoku และ เกมส์ทายปัญหาเป็นต้น

 

ขุมพลังของ AMG GLA 45 S ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 1,991 ซีซี. เทอร์โบ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT DCT 8G 8 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ กระจายแรงบิดแบบแปรผัน AMG Performance 4MATIC+ กำลังสูงสุด 422 แรงม้า (PS) ที่ 6,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 – 5,250 รอบ/นาที ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 270 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Mercedes-Benz กำลังพิจารณายุบไลน์อัพรถอเนกประสงค์ขนาดเล็กให้ตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะปรับลดจำนวนให้น้อยลง เน้นขุมพลังไฟฟ้าล้วนมากยิ่งขึ้น และอาจดันให้ Baby G-Class เข้ามาทำหน้าที่แทนรถ Hatchback ขนาดเล็ก เนื่องจากกระแสความนิยมรถทรงเหลี่ยมสันสไตล์ตัวลุยขนาดย่อมกำลังเข้ามาแทนที่ในปัจจุบัน

ที่มา: Motor1