ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ถือเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายในการรุกตลาดเมืองไทยของ Great Wall Motors โดยรุ่นที่คาดว่าจะถูกส่งเข้ามาต่อกรกับ Isuzu D-Max, Toyota Hilux Revo, Ford Ranger รวมถึงรถกระบะรุ่นอื่นๆ ในตลาดบ้านเรา นั่นก็คือ GWM Shanhai Cannon (อ่านว่า ชานไห่ แคนน่อน) ซึ่งถูกนำมาวิ่งทดสอบบนถนนประเทศไทยได้ซักพักหนึ่งแล้ว ล่าสุดทีมงาน Headlightmag ได้จับภาพรถยนต์รุ่นดังกล่าว ขณะวิ่งทดสอบอยู่ในโซนจังหวัดชลบุรี โดยคาดว่าจะเป็น GWM Shanhai Cannon เวอร์ชั่นสำหรับตลาดประเทศไทย

 

รถทดสอบคันดังกล่าว มีการพรางตัวด้วยสติ๊กเกอร์รอบคัน แต่กระนั้นก็ยังสามารถมองเห็นรายละเอียดกระจังหน้าที่ได้รับการปรับให้ต่างจากเวอร์ชั่นจีน ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้าแบบ Full-LED พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ มาให้อย่างเต็มพิกัด ไม่ว่าจะเป็นกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา เซ็นเซอร์กะระยะรอบคัน 12 ตำแหน่ง (ด้านหน้า 6 ตำแหน่ง + ด้านหลัง 6 ตำแหน่ง) ด้านข้างตัวรถเสริมความมาดความเป็นกระบะรุ่นท็อปด้วยล้ออัลลอยสีทูโทน ขนาด 18 นิ้ว ราวหลังคาแบบลอยตัว รวมถังสปอร์ตบาร์ นอกจากนี้ บานฝาท้ายยังสามารถเปิดได้ทั้งแบบปกติ และกางออกทางด้านข้างได้

ขนาดและมิติตัวถัง อ้างอิงจาก Shanhai Cannon เวอร์ชั่นจีน มีดังนี้

  •  ความยาว 5,440 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง 1,991 มิลลิเมตร
  • ความสูง 1,924 มิลลิเมตร
  • ความยาวฐานล้อ 3,350 มิลลิเมตร

เปรียบเทียบกับกระบะขนาด 1 ตัน / Pick-up 1 Ton ตัวถัง Double Cab รุ่นอื่นๆ (ยาว x กว้าง x สูง / ฐานล้อ)

  •  GWM Shanhai Cannon : 5,440 x 1,991 x 1,924 / 3,350 มิลลิเมตร
  • Isuzu D-Max : 5,265 x 1,870 x 1,810 / 3,125 มิลลิเมตร
  • Toyota Hilux Revo : 5,325 x 1,900 x 1,815 / 3,085 มิลลิเมตร
  • Ford Ranger : 5,370 x 1,918 x 1,884 / 3,270 มิลลิเมตร
  • Mitsubishi Triton : 5,320 x 1,865 x 1,795 / 3,130 มิลลิเมตร
  • Nissan Navara : 5,260 x 1,875 x 1,840 / 3,150 มิลลิเมตร
  • Mazda BT-50 : 5,280 x 1,870 x 1,810 / 3,125 มิลลิเมตร

 

ด้านขุมพลัง คาดว่าจะยกมาจาก Tank 500 และ Tank 300 เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 1,998 ซีซี ฉีดจ่ายนำ้มันแบบ Direct-injection พ่วงระบบอัดอากาศ VGT Turbocharged กำลังสูงสุด 244 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 106 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 268 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ ความจุ 1.7 kWh กำลังรวมสูงสุดทั้งระบบ 350 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 616 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9HAT ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD Dual Speed

โหมดการขับขี่ มีให้เลือก 11 รูปแบบ

  • Normal โหมดการขับขี่แบบปกติทั่วไป (ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
  • Sport เน้นการตอบสนองที่รวดเร็ว พยายามใช้เกียร์ต่ำ คารอบสูงเอาไว้ (ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
  • Eco เน้นความประหยัดน้ำมันเป็นหลัก (ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง)
  • Auto ปรับรูปแบบการตอบสนองอัตโนมัติ
  • Mud โหมดการขับขี่บนพื้นโคลน ใช้เกียร์ต่ำ รอบสูง ปิดระบบ ESC และ VDC (ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
  • Sand โหมดการขับขี่บนพื้นทราย ใช้เกียร์ต่ำ รอบสูง เปิดระบบล็อกเฟืองขับ(ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
  • Rock โหมดการขับขี่บนพื้นหินขนาดใหญ่ เปิดระบบล็อกเฟืองขับ (ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
  • 4H โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ความเร็วสูง 
  • Snow โหมดการขับขี่บนพื้นลื่น ใช้เกียร์สูง รอบต่ำ การตอบสนองคันเร่งช้าลง ป้องกันล้อหมุนฟรี (ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
  • 4L โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ความเร็วต่ำ ปรับอัตราทดเฟืองท้ายสูง เพิ่มกำลังฉุดลาก 
  • Expert สามารถตั้งค่าระบบต่างๆ แยกกัน อาทิ ระบบขับเคลื่อน โหมดการขับขี่ นำ้หนักพวงมาลัย และการทำงานของระบบช่วยเหลือการทรงตัว

 

นอกจากนี้ ยังคาดว่า GMW จะติดตั้งเทคโนโลยีขี่แบบ Off-road เข้ามาให้ในรถกระบะรุ่นนี้ด้วย ดังนี้

  • ระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง (Electric Differential Lock Front & Rear)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบออฟโรด (Off-road cruise control)
  • ระบบกลับรถในที่แคบ TANK Turn (ระบบเบรกที่ล้อหลังเพื่อลดรัศมีวงเลี้ยวในความเร็วตำ่)
  • ระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body transparent)
  • หน้าจอแสดงระดับน้ำนอกตัวรถ ขณะขับลุยน้ำ Wading Detection

 

 

ข้อมูลและความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำตลาดในประเทศไทยของ GWM Shanhai Cannon โปรดติดตามต่อได้ทาง www.Headlightmag.com

ภาพโดย Headlightmag