หลังจากที่ Tesla เปิดตัวรุ่นปรับโฉมของ Model 3 หรือที่มีชื่อเรียกในวงการว่า Highland พร้อมด้วยการทยอยส่งมอบตามตลาดต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะกับตลาดรถ EV ที่เป็นผู้นำระดับโลกด้านประชากรอันดับหนึ่งอย่างนอร์เวย์ ที่ล่าสุดได้มีสื่อยานยนต์ท้องถิ่น Motor.no จัดการแข่งขันเพื่อคว้ารางวัล “Best Car You Can Buy” หรือ “รถยนต์ยอดเยี่ยมที่คุณเอื้อมถึง” และก็ไม่พลิกโผที่เจ้าของรางวัลนี้ ได้แก่ Tesla Model 3 รุ่นล่าสุดนั่นเอง

 

ขณะที่รถ EV ที่ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายที่เข้ามาท้าชิงรางวัลเดียวกัน ได้แก่ Model Y BMW iX, Volkswagen ID.3 MG4 Peugeot e-2008 และ Renault Megane เป็นต้น โดยหลังจากผ่านการทดสอบด่านต่างๆ ทำให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนมากกว่า 50 ท่าน ลงคะแนนเสียงให้กับ Model 3 รุ่นปรับโฉมนี้ หลังจากได้ปรับการแก้ไขในจุดอ่อนข้อต่างๆ จากรุ่นก่อนปรับโฉมได้อย่างสมบูรณ์

โดยเฉพาะคุณภาพของงานประกอบและชิ้นส่วนภายในห้องโดยสาร ที่ได้รับการยกระดับความหรูหราไปอีกขั้น พร้อมด้วยการปรับปรุงการลดเสียงรบกวนจากภายนอกจากการประโคมบรรดาวัสดุซับเสียงเพิ่มเติมตามจุดต่างๆ พร้อมด้วยกระจกหน้าต่างแบบอัดซ้อน 2 ชั้น เพิ่มเติมในส่วนของกระจกประตูคู่หลัง พร้อมด้วยกระจกบังลมหลังแบบอัดซ้อน 2 ชั้น หลังจากที่รุ่นก่อนปรับโฉมให้มาแต่เพียงกระจกลดเสียงรบกวนสำหรับกระจกบังลมหน้า และกระจกประตูคู่หน้าเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม Motor.no ยังคงพบข้อผิดพลาดบางประการจากประสบการณ์การใช้งาน โดยสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบโดยตรงกับข้อร้องเรียนต่างๆ ที่ยิ่งผู้ใช้งานจำนวนมากพบเจอมากเท่าไร กระบอกเสียงก็จะยิ่งใหญ่มากเท่านั้น และสำหรับ Tesla ที่มีประวัติข้อร้องเรียนและข้อพิพาทต่างๆ อย่างโชกโชน จึงแนะให้ทาง Tesla ปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อลบคำสบประมาทนี้ได้ในที่สุด

ขณะที่ Model 3 รุ่นปรับโฉมคว้ารางวัล “Best Car You Can Buy” ในหมวดรวมทุกกลุ่มย่อยแล้ว ยังคงคว้ารางวัลที่ 1 จากรถกลุ่ม “Best small family car” ขณะที่รุ่นพี่อย่าง Model Y คว้ารางวัล เบอร์ 1 จากกลุ่ม “Medium family car” ที่มี Hyundai Ioniq 5 และ Kia EV6 ตามมาติดๆ และในส่วนของ BMW iX ที่คว้ารางวัล “Best large family car” ในสำหรับกลุ่มเล็กสุดอย่าง “small car class” ทาง Peugeot e-208 ก็ได้คว้ารางวัลอันดับ 1 ไปครอง

 

ถึงแม้ว่ารายการแข่งขันนี้จะมีผู้เข้าร่วมท้าชิงรางวัลที่มาพร้อมกับขุมพลังทั้งในรูปแบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน และขุมพลัง Hybrid แต่ด้วยกระแสความนิยมรถ EV ในประเทศนอร์เวย์ จึงทำให้บรรดารถยนต์ที่คว้ารางวัลมาครองในที่สุดต่างเป็นรถ EV กันถ้วนหน้า ด้วยยอดขายตลอด 10 เดือนของปี 2023 ที่รถ EV ขายไปได้มากกว่า 87,000 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 83.5% ขณะที่รถยนต์ขุมพลัง Plug-in hybrids (PHEV) กลับมีส่วนแบ่งเพียงแค่ 7% ทำให้ขุมพลังเบนซิน ดีเซล และ Hybrid มีส่วนแบ่งรวมกันที่ 9.5% เท่านั้น

ที่มา: Insideevs