การแข่งขันเพื่อชิงรางวัล European Car of the Year ก็ได้เดินทางมาถึงปี 2024 ซึ่งกำลังเป็นที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนต่างชาติทั่วยุโรป โดยเฉพาะผู้เข้าประกวดรอบแรกที่ผ่านการคัดเลือกเบื้องต้นจำนวนกว่า 28 คัน ตามโผรายชื่อดังต่อไปนี้

  1. BMW 5-Series
  2. BMW XM
  3. BYD Atto 3
  4. BYD Dolphin
  5. BYD Han
  6. BYD Seal
  7. Fiat 600e
  8. Ford Bronco
  9. Honda CR-V
  10. Honda e:NY1
  11. Honda ZR-V
  12. Hyundai Ioniq 6
  13. Hyundai Kona
  14. Jeep Grand Cherokee
  15. Kia EV9
  16. Lexus RZ
  17. Lucid Air
  18. Mercedes-Benz E-Class
  19. Mercedes-EQ EQE SUV
  20. Nio ET7
  21. Peugeot E-3008/3008
  22. Renault Espace
  23. Renault Scenic
  24. Smart #1
  25. Toyota C-HR
  26. Toyota Prius
  27. Volkswagen ID.7
  28. Volvo EX30

 

ประเด็นที่น่าสนใจได้แก่ ในจำนวนรถทั้งหมดนี้ มีรถ EV ที่ผลิตจากประเทศจีนกว่า 7 คัน หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 25% ได้แก่ BYD Atto 3 BYD Han BYD Dolphin BYD Seal Nio ET7, Smart #1 และ Volvo EX30 และเป็นแบรนด์ BYD ถึง 4 คัน ขณะที่แบรนด์ยุโรปอย่าง Smart #1 และ Volvo EX30 ต่างเป็นลูกครึ่งเชื้อสายจีนกันทั้งคู่ ขณะที่จำนวนรถยนต์จากสัญชาติอื่นๆ ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 6 คัน เยอรมันจำนวน 5 คัน อเมริกาเหนือจำนวน 3 คัน เกาหลีใต้จำนวน 3 คัน ฝรั่งเศสจำนวน 3 คัน และอิตาลีจำนวน 1 คัน

 

หากย้อนไปเมื่อปี 2020 Geely เข้าซื้อหุ้นจำนวน 50% ของ Smart จาก Mercedes-Benz โดยทั้ง 2 บริษัทได้จัดร่วมกันพัฒนารถ Smart รุ่นใหม่ขุมพลังไฟฟ้าล้วน และได้เปิดตัวบริษัทร่วมทุนในปี 2021 โดยมีฐานที่ตั้งอยู่ในเมือง Ningbo, มณฑล Hangzhou ประเทศจีน โดยทาง Geely ได้รับผิดชอบในงานออกแบบด้านวิศวกรรม ขณะที่ Mercedes-Benz จะนำงานดีไซส์และเส้นสายต่างๆ มาบรรจุลงในรถ จนกลายเป็น Smart #1 อย่างที่เห็น ที่ถูกสร้างขึ้นบนงานวิศวกรรมพื้นฐาน SEA platform ภายใต้บริษัทลูกของ Geely นามว่า Viridi E-mobility Technology ขณะที่แบตเตอรี่ได้หยิบยกมาจากบริษัท CALB และ Rept Battero โดยรถทั้งคันถูกผลิตขึ้นที่โรงงาน Zhejiang Haoqing ของ Geely

ขณะที่ Volvo EX30 ก็ได้ใช้งานวิศวกรรมพื้นฐาน SEA platform จาก Geely เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่กลับหยิบยกมาจากบริษัท Shandong Geely Sunwoda บริษัทร่วมทุนระหว่าง Geely และ Sunwoda ในขณะที่มอเตอร์และอุปกรณ์ระบบขับเคลื่อนส่วนควบอื่นๆ ยังคงใช้จาก Viridi E-mobility Technology ก่อนที่รถทั้งคันจะถูกผลิตขึ้นที่โรงงาน Zhejiang Haoqing ที่เดียวกับ Smart #1 ยิ่งไปกว่านั้น Volvo ยังได้เตรียมแผนผลิต EX30 ในโรงงานของตนที่เมือง Ghet ประเทศเบลเยียมภายในปี 2025

 

การแข่งขันรอบแรกกรรมการจำนวนกว่า 59 ท่าน จาก 22 ประเทศในสหภาพยุโรป จะคัดเลือกจาก 28 คัน จนเหลือเพียง 7 คัน ก่อนที่จะประกาศผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่งานมหกรรมยานยนต์ Geneva Motorshow 2024

ที่มา: Carnewschina