Tesla เตรียมที่จะเปิดไลน์การผลิตในเฟส 3 ของโรงงาน Giga Shanghai factory ประเทศจีน เพื่อที่จะรองรับการผลิตของรถยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งจะมาเป็นน้องใหม่ราคาเริ่มต้นของค่าย ซึ่งมีค่าตัวประมาณการที่ 25,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 880,000 บาท นับว่าเป็นแผนงานที่สอดคล้องกับประกาศก่อนหน้าเมื่อเดือนเมษายน 2023 ที่ผ่านมา ว่าทางค่ายจะเพิ่มโรงงานผลิตแบตเตอรี่แห่งใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2024 โดยจะมีกำลังการผลิตต่อปีอยู่ที่ 40 GHw ซึ่ง ณ ตอนนั้นยังไม่มีการเอ่ยถึงการขยายไลน์การผลิตของโรงงานประกอบรถยนต์แห่งนี้แต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวท้องถิ่นได้ให้ข้อมูลว่า Tesla ได้เริ่มจัดเตรียมการผลิตของรายการผลิตใหม่นี้ตั้งแต่ปี 2021 แต่ด้วยเหตุผลบางประการ ทาง ค่ายจึงได้ปรับเปลี่ยนให้เจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลส่วนงานนี้ ย้ายไปดูแลส่วนงานอื่นตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนของปี 2022 จึงทำให้กำหนดการเริ่มเดินสายพานการผลิตของเฟส 3 นี้ถูกเลื่อนออกไป
รายละเอียดที่อ้างอิงจากสำนักข่าว Late Auto Post ที่นอกเหนือจะระบุรายละเอียดของรถยนต์รุ่นน้องใหม่ที่จะขึ้นรายการผลิตนี้ ยังได้กล่าวถึงเป้าหมายสำคัญของ Tesla ที่จะพิชิตยอดผลิตรถ EV เป็นจำนวน 20 ล้านคันต่อปี เมื่อรวมยอดการผลิตจากทุกโรงงานเข้าด้วยกัน

 

สิ่งที่จะทำให้ Tesla ไปถึงจุดมุ่งหมายนั้นได้แก่การผลิตที่มีประสิทธิภาพ โดยหากเปรียบเทียบโรงงานทั้ง 2 แห่งในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา จะพบว่าเวลาที่โรงงานในประเทศจีน ทุกๆ 37 วินาที จะมีรถ Tesla ประกอบเสร็จสิ้นจำนวน 1 คัน ขณะที่โรงงานใน Texas จะใช้เวลามากถึง 76 วินาที ในขณะที่โรงงานผลิตแบตเตอรี่แห่งใหม่ซึ่งจะจัดเป็นโรงงานแห่งแรกของค่ายนอกสหรัฐอเมริกา ที่ทำการประกอบเซลล์แบตเตอรี่ โดยยังได้วางแผนให้รองรับกำลังการผลิตสำหรับโรงงานในประเทศอื่นนอกประเทศจีนเช่นเดียวกัน ซึ่งในช่วงแรกจะเป็นการใช้เซลล์แบตเตอรี่จากยักษ์ใหญ่อย่าง CATL ก่อนที่จะเปลี่ยนไปใช้เซลล์ที่ผลิตขึ้นเอง

การดำเนินการผลิตในส่วนหลักรายการผลิตเฟส 3 ของโรงงานที่ Shanghai นับว่ามีความทุลักทุเลพอสมควร เนื่องจากทางการจีนยังคงมีความกังวลต่อแผนการการปฏิบัติงานของ CEO อย่าง Elon Musk ที่ยากเกินจะคาดเดาได้ รวมไปถึงการออกโครงการต่างๆ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความมั่นคงระดับประเทศ

สำหรับกำหนดการเริ่มส่งมอบของรถ EV น้องใหม่ที่จะผลิตที่โรงงาน Shanghai เฟส 3 นี้ ทาง CEO ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2023 ที่ผ่านมาว่าคาดว่าจะพร้อมส่งมอบในช่วงกลางปี 2025 เป็นต้นไป โดยในขณะนี้ขั้นตอนต่างๆ ได้ถูกจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี

Tesla กำลังเจอศึกหนักทั้งในและนอกสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะประเทศจีน ที่การแข่งขันทางราคาของรถ EV กำลังร้อนระอุ โดยยอดขายของ Model 3 อยู่ในช่วงขาลง เนื่องจากมีราคาจำหน่ายใกล้เคียงแต่ก็ยังสูงกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งจากจีน โดยเฉพาะรถจากค่าย BYD ในทางกลับกัน Model Y ยังคงทำตลาดได้ดีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากราคาของ SUV ยังไม่แข่งขันกันดุเดือดเท่า และ Model Y เองก็มีข้อได้เปรียบหลายประการ ขณะที่แนวโน้มของปี 2024 จะต้องจับตาดูกันต่อไป

ที่มา: Carnewschina