ราคาอย่างเป็นทางการ Ford Everest (MY2024)

  • 2.0 Turbo Trend 6AT 4×2 : 1,354,000 บาท 1,377,000 บาท
  • 2.0 Turbo Sport 6AT 4×2 :  1,484,000 บาท 1,507,000 บาท
  • 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 10AT 4×2 : 1,724,000 บาท 1,747,000 บาท
  • 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 10AT 4×4 : 1,874,000 บาท 1,897,000 บาท
  • 2.0 Bi-Turbo Wildtrak 10AT 4×4 : 1,899,000 บาท 1,922,000 บาท

ปรับราคาเพิ่มขึ้น 23,000 บาท ทุกรุ่นย่อย มีผล 2 มกราคม 2567 เป็นต้นไป

มาพร้อมการรับประกันคุณภาพรถใหม่จากโรงงาน นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)

 

ขนาดและมิติตัวถัง
Dimension

  • ความยาว : 4,914 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง : 1,923 มิลลิเมตร
  • ความสูง : 1,842 มิลลิเมตร
  • ความยาวฐานล้อ : 2,900 มิลลิเมตร
  • ความกว้างล้อหน้า/หลัง : 1,620/1,620 มิลลิเมตร
  • ระยะต่ำสุดใต้ท้องรถ : 227 มิลลิเมตร
  • ความจุถังนำ้มัน : 80 ลิตร

เปรียบเทียบมิติตัวถังภายนอกกับคู่แข่งในกลุ่ม SUV / PPV
(ความยาว x ความกว้าง x ความสูง / ความยาวฐานล้อ)

  • Everest : 4,914 x 1,923 x 1,842 / 2,900 มิลลิเมตร 
  • Everest (รุ่นเดิม) : 4,893 x 1,862 x 1,836 / 2,850 มิลลิเมตร
  • Fortuner : 4,795 x 1,855 x 1,835 / 2,750 มิลลิเมตร
  • MU-X : 4,850 x 1,870 x 1,875 / 2,855 มิลลิเมตร
  • Pajero Sport : 4,825 x 1,815 x 1,835 / 2,800 มิลลิเมตร
  • Terra : 4,890 x 1,865 x 1,865 / 2,850 มิลลิเมตร
 

 

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
Engine & Drivetrain

 ดีเซล 2.0 ลิตร Turbo 6AT

เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี พ่วงระบบอัดอากาศ VG Turbocharged พร้อม Intercooler กำลังสูงสุด 170 แรงม้า (PS) ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,250 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง

 ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-Turbo 10AT

เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี พ่วงระบบอัดอากาศ Bi-Turbocharged พร้อม Intercooler กำลังสูงสุด 210 แรงม้า (PS) ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง และขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Part-time 4WD

 

 

ระบบกันสะเทือน
Suspension

  • ด้านหน้า เป็นแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น
    • พร้อมคอยล์สปริง ช็อกอัพ Twin-tube และเหล็กกันโคลง
  • ด้านหลัง เป็นแบบ Watt-link
    • พร้อมคอยล์สปริง ช็อกอัพ Twin-tube และเหล็กกันโคลง

ระบบห้ามล้อ
Brake

  • ด้านหน้า เป็นจานเบรก แบบมีครีบระบายความร้อน (Ventilated Discs)
  • ด้านหลัง เป็นจานเบรก แบบ Solid ธรรมดา

 

Everest 2.0 Turbo Trend 4×2 6AT : 1,377,000 บาท

อุปกรณ์มาตรฐาน มีดังนี้

  • เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Turbo 170 แรงม้า 405 นิวตันเมตร
  • เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
  • ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว
  • ยางขนาด 255/65 R18
  • ไฟหน้าแบบ LED
  • ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
  • ไฟวิ่งกลางวันแบบ LED รูป C-Clamp
  • ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED
  • ไฟท้ายแบบ LED
  • ราวหลังคาสีดำ
  • บันไดข้างสีดำ
  • กระจกมองข้างประพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
  • มือเปิดประตูสีเดียวกับตัวรถ
  • หน้าจอแสดงผลบนหน้าปัด แบบสีขนาด 8 นิ้ว
  • ระบบ Push Start
  • ระบบ Keyless Entry
  • ระบบ เปิด-ปิดกระจกหน้าต่างคู่หน้าแบบ One-Touch
  • กระจกมองหลังแบบปรับลดแสง
  • ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • เบาะหนัง และ หนังสังเคราะห์สีดำ
  • เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • เบาะนั่งแถว 2 ปรับเอน และเลื่อนหน้า-หลังได้
  • เบาะนั่งแถวที่ 3 พับได้
  • แผงบังแดดคู่หน้า พร้อมที่เสียบนามบัตร
  • ไฟอ่านแผนที่ และไฟส่องสว่างภายในตัวรถ
  • ช่องเก็บแว่นตา
  • ช่องต่อไฟ 12V 3 ตําแหน่ง บริเวณที่วางแขน, เบาะแถวที่ 2 และที่เก็บสัมภาระ
  • แท่นชาร์จไร้สาย (Wireless Charger)
  • หน้าจอกลาง แบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 10.1 นิ้ว
    • รองรับ Wireless Apple CarPlay® และ Android AutoTM
    • SYNC® 4A ภาษาไทยพร้อมการเชื่อมต่อ Bluetooth
    • ระบบ FordPass Connect
    • ลำโพง 8 ตำแหน่ง
  • ช่องต่อ USB 2 ตำแหน่ง บริเวณคอนโซลหน้า
  • ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
    • คู่หน้า
    • ด้านข้าง
    • ม่านถุงลมนิรภัย
    • ถุงลมบริเวณหัวเข่า
  • ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน
  • สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง
  • กล้องมองหลังขณะถอยจอด
  • ระบบป้องกันล้อล็อค ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • เบรกมือไฟฟ้า
  • ระบบควบคุมสเถียรภาพกรทรงตัว ESP
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
  • ระบบป้องกันรถพลิกคว่ำ ROM
  • จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX
  • สัญญาณกันขโมย และระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
  • ระบบควบคุมความเร็ว Cruise Control

Everest 2.0 Turbo Sport 4×2 6AT : 1,507,000 บาท

ราคาบวกเพิ่มจากรุ่น 2.0 Turbo Trend 130,000 บาท มีอุปกรณ์เพิ่มขึ้น ดังนี้

  • ล้ออัลลอย 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 255/55 R20
  • ไฟท้ายแบบ LED แบบ LED Signature
  • ระบบปัดนํ้าฝนแบบอัตโนมัติ
  • ประตูท้าย เปิด-ปิด ด้วยรับบไฟฟ้า แบบ Hand-free
  • มือเปิดประตูสีดำเงา
  • ชุดแต่งภายนอก สีดำสปอร์ต
  • โลโก้ EVEREST ติดฝากระโปรงหน้า สีดำ
  • ช่องต่อ USB ที่กระจกมองหลัง
  • กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
  • ระบบปรับอากาศ แบบอัตโนมัติ แยกซ้าย-ขวา
  • เบาะหนัง และ หนังสังเคราะห์สีดำลายสปอร์ต
  • เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร Ambient Lighting
  • แผงบังแดดคู่หน้า แบบปรับระยะพร้อมกระจกและไฟส่องสว่าง ด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
  • ช่องต่อไฟ 12V 3 ตําแหน่ง บริเวณที่วางแขน, เบาะแถวที่ 3 และที่เก็บสัมภาระ
  • ชุดแต่งภายใน แบบสปอร์ต
  • ช่องต่อ USB 2 ตำแหน่ง บริเวณที่นั่งแถวที่ 2

Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×2 10AT : 1,747,000 บาท 

ราคาบวกเพิ่มจากรุ่น 2.0 Turbo Sport 240,000 บาท มีอุปกรณ์เพิ่มขึ้น ดังนี้

  • เครื่องยนต์ ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-Turbocharged 210 แรงม้า 500 นิวตันเมตร
  • เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ
  • ไฟส่องสว่างข้างตัวรถ Puddle Lamps
  • หลังคา Panoramic Moonroof
  • ราวหลังคาสีเงิน แบบโครเมียม
  • บันไดข้าง แบบตกแต่งสีเงิน
  • มือเปิดประตู แบบโครเมียม
  • หน้าจอแสดงผลบนหน้าปัด แบบสีขนาด 12.4 นิ้ว
  • ระบบ เปิด-ปิด กระจกทุกบาน แบบ One-Touch
  • ช่องต่อไฟ 230V (400W) 1 ตําแหน่ง เบาะแถวที่ 2
  • หน้าจอกลาง แบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว
  • ระบบสั่งงานด้วยเสียง
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control พร้อม Electric Brake Booster
  • ระบบตรวจจับลมยาง Tire Pressure Monitoring
  • ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop & Go
  • ระบบเปิด – ปิดไฟสูงอัจฉริยะ AHH
  • ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน AEB with Pedestrian Detection
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCW with Brake Support
  • ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน Post-Impact Braking
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Keeping System
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning
  • ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด BSIS with CTA & Braking
  • กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
  • ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง Reverse Brake Assist
  • ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ Evasive Steer Assist

 

Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 10AT : 1,897,000 บาท

ราคาบวกเพิ่มจากรุ่น 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×2 150,000 บาท มีอุปกรณ์เพิ่มขึ้น ดังนี้

  • คันเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter
  • ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Part-time 4WD
  • ระบบ Terrain Management System เลือกโหมดการขับขี่ 6 รูปแบบ
    • Normal
    • Eco
    • Tow/Haul
    • Slippery
    • Mud/Ruts
    • Sand
  • Diff Lock หลังแบบไฟฟ้า
  • ไฟหน้าแบบ Matrix LED พร้อมระบบปรับมุมลําแสงไฟอัตโนมัติ และระบบป้องกันไฟแยงตา
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน Hill Descent Control
  • ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Active Parking Assist
 

 

Everest 2.0 Bi-Turbo Wildtrak 4×4 10AT : 1,922,000 บาท

มีอุปกรณ์เพิ่มขึ้นจากรุ่น 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 10AT 4×4 ดังนี้

  • ชุดกันชนหน้าแบบ Wildtrak
  • ชุดกันชนหลังแบบ Wildtrak
  • ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว ลายใหม่
  • คิ้วซุ้มล้อสีเทาดำ
  • กระจกมองข้างสีเทาดำ
  • ราวหลังคาสีเงิน แบบลอยตัว
  • ภายในตกแต่งด้วยหนังสีดำ เดินตะเข็บด้ายสีส้ม
  • โลโก้ Wildtrak

สีตัวถังภายนอก
Exterior Colors

มีให้เลือก ดังนี้

  • สีเงิน Aluminium Metallic
  • สีเทา Meteor Grey
  • สีดำ Absolute Black
  • สีทอง Equinox Bronze
  • สีน้ำเงิน Blue Lightning (เฉพาะรุ่น Sport)
  • สีขาว Snowflake White Pearl  (+12,000 บาท)
  • สีส้ม Sedona Orange (+ 12,000 บาท)
  • สีเหลือง Lux Yellow (เฉพาะรุ่น Wildtralk +12,000 บาท)

สีภายในห้องโดยสาร
Interior Colors

  • สีดำ Ebony
  • สีครีมพราลีน Praline (เฉพาะรุ่น Titanium+)

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ Click Here