ความนิยมรถในแต่ละประเทศย่อมมีความแตกต่างกัน แสดงให้เห็นถึงค่านิยมและพฤติกรรมการใช้รถของผู้คนในแต่ละพื้นที่ที่มีความหลากหลายในแต่ละสังคม เชื้อชาติ และสภาพแวดล้อม ดังจะเห็นได้จากยอดขาย 10 อันดับของแต่ละประเทศ ที่อาจไม่ซ้ำกันเลยแม้แต่อันดับเดียว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ได้แก่ สหราชอาณาจกัรและออสเตรเลียนั่นเอง

โดยแชมป์ยอดขายประจำปี 2023 ได้แก่ Ford Puma รถ compact crossover ที่ขายไปได้จำนวน 49,591 คัน ซึ่งรุ่นย่อยที่ขายได้มากที่สุดุ ได้แก่ ST-Line X รวมไปถึงขุมพลังส่วนใหญ่เป็นแบบ Mild-hybrid โดยทาง Ford ยังเตรียมเปิดตัว Puma เวอร์ชั่นขุมพลังไฟฟ้าล้วนภายในปี 2024 นี้ อีกด้วย เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดสหราชอาณาจักร ยิ่งไปกว่านั้น Ford ยังเป็นแชมป์ยอดขายของรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ด้วยรุ่น Transit Custom อีกด้วย

 

สำหรับอันดับที่ 2 อดีตแชมป์ยอดขายของปี 2022 ได้แก่ Nissan Qashqai ด้วยจำนวน 43,321 คัน นับว่าเป็นการสนับสนุนผลผลิตจากโรงงานของ Nissan ในเมือง Sunderland ประเทศอังกฤษ โดยมีจุดเด่นในด้านคุณสมบัติตัวรถที่มีความอเนกประสงค์เกินกว่าเพื่อนร่วมรุ่นในกลุ่มเดียวกัน และยังมาพร้อมกับทางเลือกขุมพลังจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Mild-hybrid หรือ Full-hybrid แบบ e-POWER

 

อันดับที่ 3 ได้แก่ Vauxhall Corsa ซึ่งขายไปได้จำนวน 40,816 คันซึ่งตกลงมาเป็นอันดับที่ 3 จากปี 2022 ที่ครองอันดับที่ 2 ยังคงเป็นเครื่องยืนยันความนิยมรถ Hatchback ขนาดย่อมของตลาดนี้อยู่เช่นเคย ถึงแม้อันดับที่ 1 และ 2 จะถูกแทนที่ด้วยรถ SUV ก็ตาม และแน่นอนกับแบรนด์ Vauxhall ที่ยังคงเป็นที่กล่าวขานในลำดับแรกๆ เมื่อพูดถึงรถยนต์ราคาประหยัด

 

ต่อมาด้วยอันดับที่ 4 อย่าง Kia Sportage ด้วยจำนวน 36,135 คัน ซึ่งนับว่าเป็นการเดินทางอันแสนยาวนานในเจเนอเรชั่นที่ 5 กันเสียแล้ว ด้วยเส้นสายอันเฉียบคมของรุ่นล่าสุดนี้ และทางเลือกขุมพลังที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ จึงยังคงครองใจผู้ที่มองหารถ SUV พร้อมความคุ้มค่าเป็นอันดับแรกๆอยู่เสมอ

 

อันดับที่ 5 ได้แก่ Tesla Model Y รถ BEV ขายดีทั่วโลกที่ปิดยอดขายไปด้วยจำนวน 35,899 คัน ซึ่งได้ครองตำแหน่งรถ BEV อันดับที่ 1 ในตลาดสหราชอาณาจักรไปพร้อมกัน หลังจากวางจำหน่ายมาเพียง 2 ปี แต่ก็สามารถสร้างความนิยมและความไว้วางใจให้กับลูกค้าจำนวนมาก

 

อันดับที่ 6 ยังคงเป็นรถทรง SUV อย่าง Hyundai Tucson ที่สามารถปิดยอดขายตลอดปี 2023 ด้วยจำนวน 34,469 คัน หลังจากขายดีควบคู่กับพ่อน้องร่วมสายเลือดอย่าง Kia มาโดยตลอด โดยมาพร้อมรูปโฉมที่โดดเด่นจากรูปแบบการดีไซน์ใหม่

 

อันดับที่ 7 กับ Mini 3 /5 ประตู ด้วยจำนวน 33,835 คัน ถึงแม้อายุตลาดจะเดินทางมาถึงช่วงปลายแล้ว แต่ยอดขายก็ยังคงเดินดีไม่มีตกแต่อย่างใด โดยเตรียมหลีกทางให้รุ่นใหม่ที่จะเริ่มวางจำหน่ายในปี 2024 นี้

 

อันดับที่ 8 เป็นการตอกย้ำความนิยมแบรนด์มะม่วงดองในสหราชอาณาจักรอย่าง Nissan Juke ด้วยจำนวนกว่า  31,745 คัน ถึงแม้จะเป็นน้องเล็กในกลุ่ม Crossover แต่ก็ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาถึงเจเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2020 และได้รับการปรับโฉมหน้าตาภายนอกเมื่อกลางปี 2023 ที่่ผ่านมา พร้อมขุมพลัง Mild-hybrid เป็นครั้งแรกของรุ่น

 

อันดับที่ 9 มาจากเยอรมันแต่เพียงผู้เดียวอย่าง Audi A3 ด้วยจำนวนยอดขาย 30,159 คัน ที่เอาชนะรถร่วมสายเลือกอย่าง Volkswagen Golf รวมไปถึงคู่แข่งร่วมสัญชาติอย่าง Mercedes-Benz A-Class ด้วยราคาขายที่ต่ำกว่าเล็กน้อย

 

อันดับสุดท้าย ได้แก่ Vauxhall Mokka ด้วยตัวเลขยอดขาย 29,984 คัน ยังคงไม่หลุด TOP 10 สำหรับแบรนด์ที่คนสหราชอาณาจักรให้ความไว้วางใจเลือกซื้อหาเป็นรถคันแรกอย่าง Vauxhall โดยรถ Crossover รุ่น Mokka ได้รับความนิยมตั้งแต่เปิดตัวใหม่หมดจด และชูจุดเด่นเรื่องราคาขายเช่นเดิม

 

ดังจะเห็นได้ว่า ค่านิยมการเลือกซื้อรถในแต่ละประเทศย่อมมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งในเรื่องของแบรนด์และรุ่นรถ จึงไม่สามารถออกแบบรถเพียงหนึ่งรุ่นและสามารถตอบโจทย์ตลาดทั่วทุกมุมโลกได้อย่างแน่นอน

ที่มา: Autocar