Ford Kuga หรือ Escape รถ SUV สำหรับวางจำหน่ายในภูมิภาคยุโรปที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2019 ได้ฤกษ์เปิดตัวรุ่นปรับโฉมเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2024 ตามหลังเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในอเมริกาเหนือ ที่ปรับโฉมไปก่อนหน้าเมื่อปลายปี 2022 จนต้องใช้เวลากว่าแรมปีที่เวอร์ชั่นยุโรปจะถูกปรับโฉมตาม

 

โดย Ford ยุโรปได้อ้างอิงงานออกแบบจาก Escape แต่ได้ทำการเพิ่มรุ่นย่อย Active ที่มาพร้อมการตกแต่งด้วยวัสดุพลาสติกสีดำ เพิ่มเติมความดุดัน พร้อมด้วยวัสดุสีเงินบริเวณใต้กันชนหน้า ชายล่างประตูหลัง และกันชนท้าย และยังได้ทำการยกตัวถังให้สูงขึ้นอีก 0.4 นิ้วที่ด้านหน้า และ 0.2 นิ้วที่ด้านหลัง เพื่อเสริมศักยภาพในการลุยได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมด้วย Trail drive mode เพื่อรองรับ การตอบสนองของคันเร่งและระบบช่วยเหลือการทรงตัวที่เหมาะสมกับพื้นผิวที่สูญเสียแรงยึดเกาะได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นดิน หิน โคลนและทราย

 

ภายในของรุ่นย่อย Active มาพร้อมการตกแต่งด้วยทริมลายไม้สีเข้มบริเวณคอนโซลหน้าและแผงประตู พร้อมเบาะนั่งคนขับที่สามารถปรับได้สูงสุด 18 ทิศทาง ที่มาพร้อมวัสดุหุ้มเบาะพิเศษเฉพาะรุ่นอีกด้วย ขณะที่รุ่นย่อยอื่นๆ อย่าง Titanium และ ST-Line ก็ได้รับการปรับปรุงอุปกรณ์และการตกแต่งเช่นเดียวกัน

พร้อมด้วยระบบเชื่อมต่อและความบันเทิงจาก SYNC 4 ที่ Ford ได้พัฒนามาใหม่ พร้อมหน้าจอกลางขนาด 13.2 นิ้ว ขณะที่หน้าจอมาตรวัดผู้ขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว ก็ได้รับการปรับปรุงภาพแสดงผลเช่นเดียวกัน พร้อมด้วยการปรับเปลี่ยนปุ่มควบคุมต่างๆ ให้น้อยลงกว่าปกติ และเปลี่ยนไปใช้การควบคุมผ่านหน้าจอกลางเป็นหลัก

 

ขณะที่เครื่องยนต์ดีเซลได้ถูกถอดออกไปจากไลน์อัพ และได้ทำการอัพเกรดขุมพลังเบนซิน Plug-in hybrid แทน ที่เลือกใช้เครื่องยนต์เบนซิน ความจุ 2.5 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ ที่มาพร้อมพละกำลังรวมกับมอเตอร์ไฟฟ้าเป็น 240 แรงม้า ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนปรับโฉมอยู่ 18 แรงม้า และมากกว่า Escape PHEV อยู่ 30 แรงม้า ทั้งหมดนี้เกิดจากการใช้แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงที่มีความจุ 14.4 kWh ซึ่งสามารถให้ระยะทางสูงสุดในโหมด EV ได้ถึง 69 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP

 

ขณะที่รุ่นเครื่องยนต์ Hybrid ไร้ปลั๊กไฟชาร์จ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินความจุ 2.5 ลิตร เช่นเดียวกัน และมาพร้อมพละกำลังรวมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 177 แรงม้าในเวอร์ชั่นขับเคลื่อนล้อหน้า และ 180 แรงม้าในเวอร์ชั่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ขณะที่รุ่นเริ่มต้นจะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน EcoBoost ขนาด 1.5 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ ให้พละกำลังสูงสุด 148 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้อคู่หน้า

ที่มา: Motor1