ยอดขายรถ EV ของสหรัฐอเมริกาตลอดปี 2023 ซึ่งรวบรวมโดยสื่อยานยนต์ท้องถิ่นอย่าง Car&Driver จำนวน 15 อันดับ ซึ่งแน่นอนว่ามีแบรนด์สัญชาติมะกันอย่าง Tesla ขึ้นยืนหนึ่งของชาร์ตไม่แพ้กับฝั่งยุโรป โดยยอดขายเกิดจากทั้งรุ่น Model Y และ Model 3 ที่รวมกันได้จำนวนประมาณ 6 แสนคัน หรือแบ่งเป็น 385,900 และ 232,700 คัน ตามลำดับ

 

ยิ่งไปกว่านั้นยอดขายอันดับรองจาก Tesla ซึ่งก็เป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเดียวกันอันได้แก่ Chevrolet Bolt EV และ Bolt EUV ที่ทำยอดขายรวมกันได้จำนวน 62,045 คัน ขณะที่รถกระบะขุมพลังไฟฟ้าล้วนอย่าง Rivian R1S และ R1T จำนวน 47,200 คัน นับว่าเป็นอันดับที่ 4 และปิดอันดับที่ 5 ด้วย Ford Mustang Mach-E จำนวน 40,771 คัน

 

ขณะที่อันดับที่ 6 ได้แก่ Volkswagen ID.4 ที่ขายไปได้ 37,789 คัน ขณะที่น้องใหม่ไฟแรงอย่าง Hyundai Ioniq 5 ก็ขายไปได้มากกว่า 33,918 คัน ตามกันไปติดๆ เป็นอันดับที่ 7 และในส่วนของพี่ใหญ่ในวงการอย่าง Tesla Model S ก็ขายไปได้จำนวน 26,700 คัน เป็นอันดับที่ 8 พร้อมด้วยกับ Tesla Model X อันดับที่ 9 ด้วยจำนวน 24,700 คัน ในขณะที่ Ford F-150 Lightning ที่ขายได้รองจาก Rivian เป็นจำนวน 24,165 คัน เป็นอันดับที่ 10

2023 EV6

 

เมื่อพ้น 10 อันดับก็เป็นยอดขายจากแบรนด์ใบพัดฟ้าขาวอย่าง BMW i4 อีกจำนวนกว่า 22,583 คัน เป็นอันดับที่ 11 และในส่วนของแบรนด์ Kia ที่มาแรงด้วย EV6 สามารถติดชาร์ตเป็นอันดับที่ 12 ด้วยยอดขายจำนวนกว่า 18,897 คัน หลังจากได้รับคำชมจากรีวิวในภูมิภาคนี้ ตามมาด้วย BMW iX อีก 17,301 คัน เป็นอันดับที่ 13

อันดับที่ 14 เป็นแบรนด์จากแดนอาทิตย์อุทัยเพียงหนึ่งเดียวในชาร์จ ที่กลับมาสร้างยอดขายหลังจากห่างหายไปจากวงการรถ EV ถึงแม้จะเป็นผู้นำรถ EV ที่มีราคาจับต้องได้ง่ายก็ตาม แบรนด์ Nissan ที่หวังให้รถรูปทรง SUV ที่กำลังเป็นที่นิยมในตลาดโลกกลับมาสร้างชื่ออีกครั้ง โดย Ariya สามารถขายไปได้เป็นจำนวนกว่า 13,464 คัน

อันดับสุดท้ายถือเป็นน้องใหม่ของวงการ EV ในปี 2023 นี้ ที่สร้างกระแสฮือฮาไม่น้อย และถึงแม้ว่าจะส่งมอบได้ไม่เต็มปี 2023 แต่ก็ยังติดสอยห้อยตามชาวบ้านขึ้นมาเป็นอันดับที่ 15 ได้สำเร็จ ต้องยอมรับเลยว่า Hyundai Ioniq 6 ที่มาพร้อมยอดขายเลขสวย 12,999 คัน มีความโดดเด่นและอาจจะขึ้นแซงอันดับอื่นๆ ในปี 2024 ก็เป็นได้

ที่มา: Carscoops