BYD เดินหน้าเปิดตัวรถ EV รุ่นใหม่เพื่อเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดกับ SUV น้องเล็กสุดท้องรุ่น Yuan UP ที่สร้างขึ้นบนงานวิศวกรรมพื้นฐาน e-Platform 3.0 เช่นเดียวกับรถ EV รุ่นอื่นๆ โดยนับว่าเป็นสมาชิกใหม่ในตระกูล Dynasty series ที่ในปัจจุบันประกอบไปด้วยรุ่นย่อย Han Song Qin Tang และ Yuan ซึ่งรุ่น Yuan ยังแบ่งแยกย่อยไปได้อีก 2 รุ่น ได้แก่ Yuan Pro และ Yuan Plus หรือ Atto 3 โดยน้องใหม่ Yuan UP จะเข้ามาเป็นสมาชิกรุ่นที่ 3 โดยยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าจะทำตลาดในชื่ออื่นหรือไม่

 

Yuan UP เลือกใช้แนวทางการออกแบบ Dragon Face design ซึ่งเพิ่งจะถูกปรับใช้ในรุ่นพี่อย่าง Song L ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า โดยยังมาพร้อมกับโลโก้ Yuan (元) พร้อมด้วยกันชนหน้าและไฟหน้าที่มาพร้อมด้วยรูปทรงเพรียวบางเช่นเดียวกัน มาพร้อมวัสดุตกแต่งสีดำเงารอบคัน พร้อมด้วยการติดตั้งหลังคาซันรูฟขนาดใหญ่ รวมไปถึงมือเปิดประตูแบบเรียบเนียนกับตัวรถตามสมัยนิยม

 

ขณะที่ด้านข้างตัวถังมาพร้อมชิ้นส่วนตกแต่งบริเวณชายล่างทั้งหมด เสริมภาพลักษณ์ตัวลุยด้วยวัสดุสีดำด้าน พร้อมด้วยล้ออัลลอยลวดลายออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้านท้ายติดตั้งไฟ LED ตามแนวยาวของตัวรถ พร้อมด้วยโลโก้แบรนด์ BYD แบบใหม่ที่เลือกใช้อักษรย่อ

รายละเอียดมิติตัวถัง มีดังนี้

  • ความยาว 4,310 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง 1,830 มิลลิเมตร
  • ความสูง 1,675 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ 2,620 มิลลิเมตร
  • น้ำหนักตัวรถ 1,430 – 1,540  กิโลกรัม

 

เมื่อเทียบกับ Atto 3 จะพบว่า Yuan Up มีลำตัวสั้นกว่า 145 มิลลิเมตร แคบกว่า 45 มิลลิเมตร เตี้ยกว่า 60 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อสั้นกว่า 100 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักตัวรถก็ยังเบากว่า Atto 3 ราวๆ 250 กิโลกรัม ด้วยเช่นกัน

ขุมพลังของ Yuan Up มีให้เลือก 2 รูปแบบ ได้เเก่ มอเตอร์ไฟฟ้าเดียวรหัส TZ180XSF ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้า (PS)  และมอเตอร์ไฟฟ้ารหัส TZ200XSW ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า (PS) ทำความเร็วได้สูงสุด 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ทั้ง 2 รุ่น พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Blade Battery แบบ LFP จาก FinDreams บริษัทลูกของ BYD ความจุ 32 kWh และ 45.1 kWh มาพร้อมระยะทางวิ่งได้สูงสุดต่อ 1 รอบการชาร์จที่ 301-401 กิโลเมตร

BYD Yuan Up เตรียมเปิดตัวในตลาดจีนบ้านเกิดเดือนมีนาคมนี้ ด้วยราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 100,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินประมาณ 497,000 บาท (ยังไม่รวมภาษีต่างๆ ของไทย)

ที่มา: Carnewschina