BYD ขายรถยนต์ตลอดเดือนมกราคม 2024 ไปได้จำนวน 201,493 คัน ลดลง 40% จาก 341,043 ในเดือนธันวาคม 2023 ขณะที่ยอดการส่งออกตลอดเดือนเดียวกันกลับสร้างสถิติใหม่ที่จำนวน 36,174 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 247.56% จากเดือนมกราคม 2023 ที่ส่งออกไปได้จำนวน 10,408 คัน นับว่าเป็นสัญญาณของการเติบโตในตลาดนอกประเทศจีนอย่างยิ่งยวด เกินกว่าจะมีค่ายรถยนต์อื่นต้านทานได้
นับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2022 BYD ได้ประกาศยกเลิกการทำตลาดรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในล้วน และมุ่งเน้นการพัฒนาและจำหน่ายรถประเภท New Energy Vehicles (NEVs) ที่ประกอบไปด้วยรถยนต์ขุมพลัง ไฟฟ้าล้วน หรือ Battery Electric Vehicles (BEV) และ Plug-in Hybrid Electric Vehicles (PHEVs) ซึ่งเมื่อพิจารณายอดขายตลอดเดือนมกราคม 2024 ที่ผ่านมา จะพบว่า อัตราส่วนยอดขายของ BEVs ต่อ PHEVs จะอยู่ที่ 52 : 48 จากยอดขายจำนวน 105,304 และ 95,715 คัน ตามลำดับ
นอกจากนี้ เมื่อพิจารณายอดขายของรถขุมพลัง Plug-in hybrid ตลอดเดือนมกราคม 2024 จะพบว่ายอดขายเพิ่มขึ้น 33.14% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2023 อย่างไรก็ตาม การเปรียบเทียบยอดขายของเดือนมกราคม 2023 กับ มกราคม 2024 ดูจะไม่เป็นธรรมนัก เนื่องจากเทศกาลตรุษจีนของแต่ละปีมีขึ้นในเดือนที่แตกต่างกัน โดยในปี 2023 เทศกาลตรุษจีนมีขึ้นในเดือนมกราคม ขณะที่ปี 2024 เทศกาลตรุษจีนจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ จึงส่งผลให้ยอดขายตลอดเดือนมกราคม 2024 น้อยกว่าปีก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด
BYD ยังคงรุกตลาดส่งออกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่ยังไม่มีผู้จำหน่าย EV เป็นหลัก โดยล่าสุดกับประเทศรวันดา พร้อมด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ อย่างเต็มกำลัง อย่างเช่นรถ SUV รุ่นเล็ก Yuan UP ที่เตรียมลุยตลาดเดือนมีนาคมนี้ รวมไปถึงการแตกแบรนด์ย่อยอย่าง Fang Cheng Bao รุ่น Bao 3 และ Bao 7 เพื่อจับตลาดคนเล่น SUV แนวออฟโรดหรู พร้อมตลาดพรีเมียมอย่างแบรนด์ YangWang รุ่น U6 และ U9
โดยเมื่อจำแนกยอดขายในแต่ละแบรนด์ย่อยในตลาดประเทศจีน จะแบ่งออกเป็น
- Denza – 9,068 คัน
- Fang Cheng Bao – 5,203 คัน
- YangWang – 1,652 คัน
โดยเมื่อจำแนกยอดขายในแต่ละรุ่นสำหรับตลาดประเทศจีน จะแบ่งออกเป็น
- Seagull – 33,447 คัน
- Dolphin – 18,905 คัน
- Han – 11,101 คัน
- Seal – 8,347 คัน
- Tang – 5,211 คัน
- Song – 59,514 คัน
- Qin – 21,767 คัน
- Yuan – 18,071 คัน (รวม Atto 3)
ที่มา: Carnewschina