ยอดขายรถยนต์ในประเทศจีนตลอดเดือนมกราคม 2024 มีจำนวนมากกว่า 2.03 ล้านคัน ตามข้อมูลที่อ้างอิงจาก China Passenger Car Association (CPCA) หรือสมาคมรถยนต์ส่วนบุคคลแห่งประเทศจีน ซึ่งมากกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าอยู่ 57.4% แต่กลับลดลงจากเดือนธันวาคม 2023 อยู่ 13.9%

 

สาเหตุของยอดขายที่ลดลงจากช่วงเดือนสุดท้ายของปี 2023 ได้แก่ การอัดโปรโมชั่นอย่างหนักหน่วงของค่ายรถยนต์ต่างๆ ก่อนปิดยอดประจำปี จึงทำให้ยอดขายของเดือนมกราคม 2024 นั้นไม่ได้มีจำนวนมากเท่าที่ควร โดยหลังจากเปิดศักราชผู้คนยังคงชะลอการจับจ่ายการใช้สอย เพื่อรอเทศกาลลดแหลกช่วงตรุษจีน

อีกทั้ง เมื่อพิจารณายอดขายของรถกลุ่ม New Energy Vehicle (NEV) ที่ประกอบไปด้วยรถยนต์ขุมพลังไฟฟ้าล้วน electric vehicles (EVs) และ plug-in hybrid electric vehicles (PHEVs) ต่างพากันเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดจีน โดยสามารถกวาดยอดขายไปได้จำนวน 396,000 และ 291,000 คันตามลำดับ ซึ่งรวมกันได้เป็นสัดส่วนมากถึง 33.8% ของยอดขายรวมตลอดเดือนมกราคม 2024

 

อีกหนึ่งสาเหตุได้แก่ วันหยุดทำงานของโรงงานในช่วงเทศกาลตรุษจีนของเดือนมกราคมในปี 2023 ขณะที่เดือนเดียวกันของปี 2024 นี้ กลับเปิดทำการปกติ เนื่องจากตรุษจีนอยู่ในเดือนกุมภาพันธ์แทน

Volkswagen กลับมาผงาดอีกครั้งในเดือนมกราคม 2024 ด้วยยอดขายกว่า 209,476 คัน คิดเป็นอัตราส่วนเพิ่มขึ้น 41.5% และคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดกว่า 10.29%. แซงหน้าแชมป์เก่าอย่าง BYD ที่มียอดขายเป็นอันดับ หนึ่งติดต่อกันเป็นระยะเวลา 11 เดือน

โดย BYD ขายรถไปได้จำนวน 191,122 คัน คิดเป็นอัตราส่วนเพิ่มขึ้น 43.4% จากเดือนเดียวกันของปี 2023 และคิดเป็นส่วนแบ่ง 9.39%

อันดับที่ 3 อย่าง Toyota ก็ขายไปได้เป็นจำนวน 141,689 คัน ก็ยังคงเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนหน้าถึง  35.1% คิดเป็นส่วนแบ่ง 6.96% ตามมาด้วยอันดับที่ 4 และ 5 อย่าง Changan และ Wuling ที่สร้างยอดขายไปได้ 130,408 และ 129,638 คัน ตามลำดับ

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณายอดขายของรถกลุ่ม New Energy Vehicle (NEV) จะพบว่า BYD ครองแชมป์อย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งในรูปแบบขุมพลังไฟฟ้าล้วน BEV และ PHEV ซึ่งสามารถกวาดยอดขายไปได้ 98,423 และ 39,881 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งจากตลาดรวมเป็นสัดส่วน 26% และ 34% ตามลำดับ ขณะที่แบรนด์ใหญ่จากแดนมะกันอย่าง Tesla ก็ขายรถ EV ไปได้จำนวน 39,881 คัน ก็สามารถคว้าอันดับที่ 2 มาครองได้สำเร็จ คิดเป็นส่วนแบ่ง 10.61% จากตลาดรวม

 

ในส่วนของรถรุ่นที่ขายดีอย่าง Changan CS75 Plus  ที่ขายไปได้จำนวน 40,496 คัน ตามมาด้วย Volkswagen Lavida ซึ่งขายไปได้จำนวน 32,419 คัน ขณะที่อันดับที่ 3 ตกเป็นของ BYD Song Plus จำนวน 32,267 คัน ก่อนจะตามมาด้วยรถซีดานยอดนิยมเครื่องยนต์สันดาปอย่าง Nissan Sylphy ด้วยจำนวน 30,384 คัน ขณะที่อันดับที่ 5 อย่าง Aito Wenjie M7 มีอัตราเพิ่มของยอดขายเมื่อเทียบกับปี 2023 มากถึง 1,626.9%

ภาพรวมตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเดือนมกราคม 2024 ในประเทศจีนจะเห็นได้ว่า ความนิยมรถยนต์ BEV และ PHEV มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปที่มีราคาจำหน่ายต่ำกว่าก็ยังขายไปได้พอสมควร

ที่มา: Carnewschina