นอกเหนือจากระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ถูกนำมาใช้เป็นจุดขายสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า 100% เช่นเดียวกัน นั่นก็คือ ตัวเลขเคลมอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ปัจจุบันการเคลมตัวเลขอัตราเร่งออกตัวจากจุดหยุดนิ่งระดับต่ำกว่า 4 วินาที ดูจะเป็นเรื่องธรรมดากันไปแล้ว สำหรับ High-power EV ที่มีพละกำลัง เริ่มตั้งแต่ 400 แรงม้า ขึ้นไป ปัจจุบันผู้บริโภคชาวไทยสามารถพาตัวเองและพาหนะคู่ใจ ทะยานจาก 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 3.8 วินาที หรือต่ำกว่า (ตัวเลขเคลมจากโรงงาน) ด้วยการจ่ายเงินซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมีให้เลือกหลายรุ่น ตั้งแต่ระดับ 6 ล้านบาท ไล่ลงมาจนถึง 1 ล้านบาทกลางๆ

 

ในเดือน มีนาคม 2024 ที่กำลังจะถึงนี้ การลิ้มรสชาติอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระดับ 3.8 วินาที อาจเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น หลังจากที่ MG Sales (ประเทศไทย) ยืนยันว่าจะมีการเปิดตัว MG 4 XPower เข้ามาเสริมทัพ MG 4 รุ่นปกติ ให้ครบครันขึ้น อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นยอดขายในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า 100% ของค่ายให้เติบโตขึ้น หลังจากที่ขบวนรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติเดียวกันหลั่งไหลเข้ามาแชร์ส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง

MG 4 XPower ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกที่ประเทศจีน เมื่อเดือน มิถุนายน 2023 โดยใช้ชื่อ MG Mulan Triumph Edition ในฐานะรุ่น Top of the Line ของ MG Mulan (ชื่อเฉพาะในจีน) หรือ MG 4 แม้ว่าหน้าตาภายนอกของ MG 4 XPower จะดูเผินๆ แล้ว แทบไม่มีความแตกต่างจากรุ่นปกติ ยกเว้น ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 235/45 R18 พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีส้ม และสีตัวถังภายนอก สีเขียว Green Racing ทว่าสิ่งที่ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในนั้น เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว แต่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะพาคุณซิ่งหนีสิบล้อเบรกแตกขณะจอดอยู่กลางแยกไฟแดงได้สบายๆ

 

ขุมพลังขับเคลื่อนของ MG 4 XPower เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 435 แรงม้า (PS) (มอเตอร์หน้า 204 แรงม้า + มอเตอร์หลัง 231 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร (มอเตอร์หน้า 250 นิวตันเมตร + มอเตอร์หลัง 350 นิวตันเมตร) ตัวเลขเคลมอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระบุเอาไว้ที่ 3.8 วินาที สามารถทำความเร็วสูงสุด Top Speed ได้ถึง 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ระบบกักเก็บพลังงาน ยังคงใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 62.1 kWh (Useable) มากกว่ารุ่นปกติราวๆ 10 kWh สามารถวิ่งได้เป็นระยะทางไกลสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม 1 รอบ อยู่ที่ 400 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP และรองรับการอัดประจุด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด150 kW สามารถชาร์จไฟจาก 10 – 80% ภายในเวลา 35 นาที

 

ด้านภายในห้องโดยสาร มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานเช่นเดียวกับรุ่นปกติ ไม่ว่าจะเป็น พวงมาลัยตัดหัวตัดท้ายแบบ 2 ก้าน คอนโซลกลางแบบ Float Central Control Platform รวมถึงหน้าจอกลางระบบสัมผัส ขนาด 12.3 นิ้ว ส่วนที่ได้รับการอัพเกรดเพิ่มเติม จะเป็นเบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนังกลับ Alcantara เดินตะเข็บด้ายสีส้ม

 

กำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ MG 4 XPower ในประเทศไทย จะมีขึ้นในเดือน มีนาคม 2024 นี้ โดยราคาจำหน่ายหลังจากได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ คาดว่าจะอยู่ที่ 1 ล้านบาทต้นๆ (รุ่นปกติอยู่ที่ 869,000 – 969,000 บาท) สามารถติดตามข้อมูลตัวรถ รวมถึงผลทดสอบด้านสมรรถนะการขับขี่ได้ทาง www.Headlightmag.com