เมื่อวันที่ กุมภาพันธ์ 2024 Pagani เปิดตัวรถสปอร์ต Top-of-the-line ของค่ายที่พัฒนาต่อยอดมาจากรุ่น Huayra R รถสนามที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2021 โดยพัฒนาในส่วนของชิ้นส่วนตัวถังให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งชิ้นส่วนที่มีการปรับปรุงได้ชัดเจนที่สุด ได้แก่ หลังคาที่เลือกใช้เป็นแบบ pop-out roof เพื่อสร้างแรงกดให้เพิ่มมากขึ้น เมื่อแยกชิ้นส่วนบางส่วนออกไปตามที่ได้ออกแบบไว้

 

แรงกดที่เพิ่มขึ้นกว่า 45% เกิดขึ้นจากการปรับปรุงชิ้นส่วนตัวถังทั้งหมดรอบคัน โดยเมื่อนำชิ้นส่วนฝาครอบหลังคาออกไป ยังสามารถเพิ่มแรงกดได้อีก 5% ซึ่งเกิดขึ้นจากทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมกันนี้ยังได้ทำการลดน้ำหนักตัวถังลงจนเหลือเพียง 1,060 กิโลกรัม หรือเบากว่า Mazda MX-5 อยู่ถึง 68 กิโลกรัม

 

เครื่องยนต์ที่ใช้ยังคงเป็นบล๊อคเดียวกับ Huayra R ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบ V12 ความจุ 6.0 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ แต่ได้รับการอัพเกรดจนเรียกได้เป็นรหัส V12 R-Evo ให้พละกำลังสูงสุด 900 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 770 นิวตัน-เมตร ซึ่งมากกว่าเดิมอยู่ 50 แรงม้า และ 20 นิวตัน-เมตร โดยทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากการออกแบบชิ้นส่วนท่อไอดีใหม่หมดจด ติดตั้งแคมชาร์ฟชิ้นใหม่ พร้อมด้วยระบบท่อไอเสียที่มีประสิทธิภาพสูง ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบ sequential ผ่านล้อคู่หลัง ที่ทาง Pagani ได้พัฒนาร่วมกับ HWA AG สำหรับรถแข่ง Huayra

นอกจากนี้ยังมาพร้อมช่วงล่างที่ชิ้นส่วนต่างๆ ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมอัลลอยแบบ Forged เลือกใช้เป็นแบบ double-wishbone พร้อมด้วยสปริงแบบพิเศษ ขณะที่โช้คอัพเลือกใช้แบบที่ควบคุมได้ด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อรองรับความเร็วสูงสุดกว่า 349 กม./ชม. โดยที่ตัวรถยังมีเสถียรภาพการทรงตัวเป็นเยี่ยม

 

ขณะที่ระบบเบรกก็ถูกออกแบบเป็นพิเศษด้วยการเลือกใช้จานเบรกที่ทำจากวัสดุคาร์บอนเซรามิก พร้อมด้วยผ้าเบรกเทคโนโลยีจากสนามแข่ง ขณะที่ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วสำหรับล้อคู่หน้าก็รัดด้วยยางไซส์ 280/680 R19 เช่นเดียวกับล้อคู่หลังขนาด 20 นิ้ว ซึ่งรัดด้วยยางขนาด 345/725 R20 โดยทั้งหมดนี้เลือกใช้เป็นยางสลิคสำหรับสนามแข่ง

Pagani ยังได้ทำการออกแบบด้านท้ายของ Huayra R Evo ใหม่ ให้มีความยาวต่อเนื่องออกไปในลักษณะรถแข่งทางเรียบ พร้อมด้วยชุดสปอยเลอร์ด้านท้ายออกแบบใหม่ ให้มีประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ได้อย่างเต็มเปี่ยม

 

ภายในมาพร้อมกับเบาะนั่งที่หุ้มด้วยวัสดุทนไฟ พร้อมด้วยเบาะนั่งแบบรถแข่ง ที่รองรับเข็มขัดนิรภัยแบบ 6 จุด พร้อมด้วยชิ้นส่วนต่างๆ ที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ โดยพวงมาลัยสามารถเลือกได้ทั้งแบบฝั่งซ้ายและขวาตามต้องการ

ที่มา: Motor1