BYD เตรียมเปิดโรงงานในเม็กซิโกสำหรับการป้อนรถ EV สำหรับตลาดอเมริกาเหนือโดยเฉพาะ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการผลิตตัวรถและการจัดการชิ้นส่วนต่างๆ โดยเม็กซิโกนับว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพและความพร้อมในด้านการเป็นฐานทัพการผลิตอย่างมาก เพื่อรองรับการส่งออกไปยังตลาดใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาและแคนาดา โดยสิทธิพิเศษทางภาษีที่ BYD จะสามารถได้รับในการเดินสายพานการผลิตที่ตั้งอยู่ 1 ใน 3 ประเทศนี้ ซึ่งชิ้นส่วนจำนวนกว่า 75% ของตัวรถ จะต้องถูกผลิตขึ้นในโรงงานที่ตั้งอยู่ใน 1 ใน 3 ประเทศ

นอกจากนี้ เม็กซิโกยังนับว่าเป็นประเทศในเป้าหมายของบรรดาผู้ผลิตรถยนต์จากทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ผลิตรถ EV อันได้แก่ Kia BMW รวมไปถึงยักษ์ใหญ่ที่กำลังลุยตลาดรถ EV อย่าง Stellantis รวมไปถึงต้นตำรับรถ EV ในปัจจุบันอย่าง Tesla

 

BYD ได้เปิดตลาดรถ EV ในเม็กซิโกไปแล้วในช่วงเวลาก่อนหน้า อันได้แก่ Han Tang Atto 3 Dolphin รวมไปถึงหัวหอกอย่าง Sea ไม่นับรวมรถขุมพลัง Plug-in hybrid อย่าง Song Plus DM-i รวมไปถึงการผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขุมพลังไฟฟ้าล้วน
นอกจากนี้ BYD ยังได้เข้าซื้อโรงงานของ Ford Motor ในประเทศบราซิลเพื่อรองรับการผลิตรถ EV สำหรับตลาดอเมริกาใต้ในอนาคตอันใกล้นี้ ทั้งหมดนี้เพื่อการผนึกศักยภาพให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดทั่วโลก ภายใต้ข้อได้เปรียบทั้งเชิงนโยบายและการบริการที่เน้นการรุกตลาดดั้งเดิมด้วยการเข้าซื้อกิจการตัวแทนจำหน่ายในแต่ละภูมิภาค

 

ยิ่งไปกว่านั้น BYD ยังได้ลงนามสัญญาการค้าเป็นระยะเวลา 8 ปี ระหว่าง FinDreams Battery บริษัทลูกของตน และ BorgWarner บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนของ GM Ford และ Stellantis เพื่อทำการส่งแบตเตอรี่ Blade แบบ lithium iron phosphate (LFP) อันเลื่องชื่อของทางค่าย โดย BorgWarner จะมีสิทธิ์ในการเข้าถึงรายละเอียดทางเทคนิคต่างๆของการออกแบบเซลล์แบตเตอรี่และการจัดวางอีกด้วย

BorgWarner นับว่าเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยักษ์ใหญ่รายแรกและรายเดียวในขณะนี้ ที่ได้บรรลุข้อตกลงดังกล่าว เพื่อให้สามารถคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในการแข่งขันทั้งในตลาดประเทศจีนที่ได้ตั้งรกรากและทำการผลิตชิ้นส่วนให้กับแบรนด์รถจีนมาอย่างยาวนาน และยังสามารถผลิตชิ้นส่วนของระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าและส่วนควบ อย่างอินเวอร์เตอร์ มอเตอร์ขับเคลื่อน ชุดสมองกลควบคุมและยังได้ขยายมาถึงแบตเตอรี่ที่นับว่าเป็นชิ้นส่วนสำคัญสำหรับรถ EV

 

สิ่งที่น่าจับตาคือดีลในลักษณะนี้ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่าง BYD และบรรดาผู้ผลิตชิ้นส่วนในอนาคตอันใกล้นี้ จะยิ่งตอกย้ำความสามารถในการแข่งขันของแบรนด์ในตลาดรถ EV แบบครบจบที่เดียวอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากความนิยมของแบตเตอรี่ประเภท LFP ที่บรรดาค่ายรถยนต์ต่างหันมาสนใจแทนแบตเตอรี่แบบ NMC ที่ต้องการแร่ที่มีราคาสูงกว่าในการผลิตเซลล์

ที่มา: Carnewschina