Lexus เปิดตัวรุ่นปรับโฉมของ NX รถ SUV ยอดนิยมสำหรับตลาดประเทศญี่ปุ่นบ้านเกิด โดยได้ทำการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ Overtrail ที่ตกแต่งสไตล์ตัวลุย อ้างอิงจากรุ่นพี่ GX ที่มาพร้อมสีตัวถังเฉพาะรุ่น ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้ทำการอัพเกรดรายละเอียดทางเทคนิคสำหรับรุ่นพื้นฐานอีกด้วย

 

สำหรับรุ่นย่อย Overtrail ที่มาพร้อมสีตัวถังพิเศษ Moon Desert เช่นเดียวกับ GX โดยยังได้ทำการตัดขอบชิ้นส่วนต่างๆอันได้แก่ กระจังหน้า ขอบหน้าต่างรอบคัน มือเปิดประตู ฝาครอบกระจกมองข้าง รวมไปถึงราวหลังคาด้วยสีดำเงา ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยางแบบ all-terrain เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะบนพื้นผิวขรุขระ พร้อมด้วยการเพิ่มระยะต่ำสุดของช่วงล่างอีก 15 มิลลิเมตร พร้อมด้วยชุดช่วงล่าง Adaptive Variable Suspension system ที่ทำหน้าที่ลดอาการโคลงตัวเมื่อขับเคลื่อนผ่านพื้นผิวขรุขระ ขณะที่ภายในมาพร้อมกับการตกแต่งด้วยโทนสี Monolith ตัดกับสีดำ ปิดท้ายด้วยวัสดุลายไม้

นอกจากนี้ยังเพิ่มสีตัวถังใหม่ Sonic Copper สำหรับรุ่นย่อย “version L” พร้อมด้วยการพ่นสีคิ้วขอบซุ้มล้อให้เป็นสีเดียวกับตัวรถ ขณะที่สีภายในของรุ่น “version L” ยังสามารถเลือกสีส้ม Hazel หรือสีขาว Solis White

 

สำหรับอุปกรณ์ภายในห้องโดยสารยังได้รับการปรับปรุง โดยเฉพาะหน้าจอกลางขนาด 14 นิ้ว ที่ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมด้วยไฟส่องสว่างบริเวณคันโยกแบบไฟฟ้าของประตูคู่หลัง ยังไม่นับรวมช่องชาร์จ USB-C อีก 2 ตำแหน่ง รวมไปถึงไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมไฟสูงแบบ adaptive เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น NX350 และ NX350h

 

สำหรับขุมพลังยังคงใช้ชุดเดิม ที่มีให้เลือกในรุ่นย่อย NX350 เครื่องยนต์เบนซินรหัส รหัส T24A-FTS ความจุ 2.4 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift 8 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (Full-time AWD) กระจายแรงบิดระหว่างล้อคู่หน้าและล้อคู่หลัง ได้ตั้งแต่ 75 : 25 ถึง 50 : 50 ไร้ระบบ hybrid

พร้อมด้วย NX350h เครื่องยนต์เบนซินรหัส A25A-FXS + THS II ความจุ 2.5 ลิตร Hybrid ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ e-FOUR พร้อมมอเตอร์หลัง กระจายแรงบิดระหว่างล้อคู่หน้าและล้อคู่หลัง ได้ตั้งแต่ 100 : 0 ถึง 20 : 80

ปิดท้ายด้วยรหัส NX450h+ เครื่องยนต์เบนซินรหัส A25A-FXS + THS II Plug-in และ แบตเตอรี่ lithium-ion ความจุ 18.1 kWh ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ E-FOUR กระจายแรงบิดระหว่างล้อคู่หน้าและล้อคู่หลัง ได้หลากหลายค่าตั้งแต่ 100 : 0 ถึง 20 : 80

 

โดยยังได้ทำการปรับปรุงช่วงล่างทั้งหมดให้มีความสบายยามเดินทางมากยิ่งขึ้น โดยที่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนมากกว่าเดิม รวมไปถึงรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ยังได้รับการปรับปรุงโหมดการขับขี่ Trail mode ให้ตอบสนองต่อพื้นผิวถนนได้ดียิ่งขึ้น

Lexus NX รุ่นอัพเดทพร้อมจำหน่ายแล้วในเดือนมีนาคม 2024 นี้ ที่ประเทศญี่ปุ่นบ้านเกิด มีราคาเริ่มต้นที่ 5,120,000 เยน สำหรับรุ่น NX350 2WD ไปจนถึง 7,725,000 เยน ในรุ่น NX450h+ Overtrail AWD หรือประมาณ 1.84 ล้านบาท หรือประมาณ 1.22 ล้านบาท ไม่รวมภาษีนำเข้าประเทศไทย โดยยอดขายสะสมนับตั้งแต่ NX รุ่นแรกที่ส่งมอบตั้งแต่ปี 2014 มีจำนวนกว่า 1.42 ล้านคัน โดยในจำนวนนี้คิดเป็นส่วนแบ่งของขุมพลัง Hybrid กว่า 56%

ที่มา: Carscoops