Toyota ขยับอีกครั้งด้วยการเข้าซื้อหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัทร่วมทุนที่ประกอบการผลิตเซลล์แบตเตอรี่กับ Panasonic โดยบริษัทที่มีชื่อว่า Primearth EV Energy Co., Ltd (PEVE) ที่แต่เดิมมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็น Toyota ที่สัดส่วน 51% ขณะที่สัดส่วนที่เหลือเป็นของ Panasonic ที่ 49% ประกอบกิจการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ Hybrid (HEV) เป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม บริษัท PEVE มีแผนที่จะผลิตแบตเตอรี่เพิ่มเติม สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน (BEV) และรถยนต์ Plug-in Hybrid (PHEV) ของแบรนด์ Toyota ในอนาคตอันใกล้นี้ และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการเติบโตสำหรับรถยนต์ขุมพลังไฟฟ้าทั้งหลาย

 

Toyota ที่ดูเหมือนจะไม่เอาจริงเอาจังกับรถ BEV แท้จริงแล้วกลับให้ความสำคัญอยู่ห่างๆ โดยใช้บริษัทร่วมทุนนี้ในการวิจัยและพัฒนาเซลล์แบตเตอรี่ที่มีคุณภาพสูง จนสามารถทำให้บรรลุเป้าหมายการลดปริมาณคาร์บอนได้ในที่สุด เพื่อให้ความคล่องตัวในการสู้ศึกสงครามรถ EV เป็นไปได้อย่างราบรื่น ด้วยเหตุที่ว่า Toyota กำลังทดสอบแบตเตอรี่แบบ solid-state ในปัจจุบัน จึงทำให้การเข้าบริหารกิจการอย่างเต็มตัว สามารถบริหารงานได้ตามแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการผลิตเซลล์แบตเตอรี่ที่มีรูปร่างแตกต่างจากในปัจจุบันเพื่อให้สามารถลดน้ำหนักและเพิ่มอัตราพลังงานต่อพื้นที่ได้

ที่มาที่ไปของบริษัทร่วมทุนนี้ แต่เดิมเป็นบริษัทชื่อ Panasonic EV Energy Co.Ltd. ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม 1996 โดยมี Toyota ถือหุ้นส่วนอยู่ 40% ขณะที่หุ้นสัดส่วน 60% ที่เหลือจะอยู่ในส่วนของ Panasonic ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Primearth EV Energy ในเดือนมิถุนายน 2010 ที่ผ่านมา โดยในปัจจุบันบริษัทมีพนักงานจำนวน 4,700 คน

 

เมื่อปี 2023 Toyota ยังได้จับมือกับ Idemitsu Kosan เพื่อทำการพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่แบบ solid-state สำหรับรถ BEV ในอนาคตอันใกล้นี้ หลังจาก Idemitsu เองก็ได้ทำงานวิจัยแบตเตอรี่ประเภทนี้มาตั้งแต่ปี 2001 ซึ่งแท้จริงแล้ว Toyota เองกลับเริ่มทำการวิจัยตามหลังในปี 2006

การจับมือร่วมกันระหว่างผู้ผลิตรถยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วนในปัจจุบันเพื่อร่วมกันพัฒนาแบตเตอรี่ให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับคู่แข่ง นับว่าเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันทั่วโลก โดยเฉพาะเมื่อ Toyota ต้องการที่จะเปิดตัวแบตเตอรี่แบบ solid-state ภายในช่วงปี 2027-2028 เพื่อให้เอาชนะข้อจำกัดด้านระยะทางต่อ 1 รอบการชาร์จในระดับ 1,000 กิโลเมตร พร้อมด้วยความสามารถในการชาร์จไฟภายในระยะเวลาไม่เกิน 10 นาที

ที่มา: Carscoops