Porsche เปิดตัวรถโปรดักชั่นคาร์ที่แรงที่สุดในประวัติศาสตร์ที่มาพร้อมขุมพลังไฟฟ้าล้วน ด้วยพละกำลังสูงสุด 1,092 แรงม้า ในนาม Taycan Turbo GT ที่มาเพื่อทำลายสถิติซึ่งรุ่นพี่เครื่องยนต์สันดาปได้ทำเอาไว้ก่อนหน้า ชุดแต่งรอบคันเริ่มต้นด้วยกันชนหน้าที่ดุดันน่าเกรงขาม ติดตั้งช่องดักลมขนาดใหญ่เพื่อระบายความร้อนให้กับระบบเบรก พร้อมด้วยสปอยเลอร์ด้านล่างชิ้นส่วนสีดำและสเกิร์ตข้างสีดำ เช่นเดียวกับกันชนหลังที่ติดตั้งแผ่นรีดอากาศหรือดิฟฟิวเซอร์ชิ้นใหญ่ มาพร้อมสีตัวถังพิเศษอีก 2 สี ได้แก่ สีเทาอมฟ้า Pale Blue Metallic และสีม่วง Purple Sky Metallic ขณะที่ชิ้นส่วนต่างๆรอบคันตกแต่งด้วยสีดำเงาและสีดำด้าน พร้อมด้วยออฟชั่นไฟหน้าแบบ HD matrix LED โโยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม

 

นอกจากนี้ยังมาพร้อม Weissach track package ซึ่งมีให้เลือกติดตั้งใน Porsche รุ่น 4 ประตู เป็นครั้งแรก โดยจะลดน้ำหนักตัวถังโดยรวม ด้วยการถอดเบาะนั่งแถวหลังออกไป และติดตั้งชิ้นงานที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่สามารถเก็บสัมภาระได้แทน พร้อมด้วยการติดตั้งช่องชาร์จไฟแบบเปิด-ปิดด้วยมือที่ฝั่งผู้โดยสารเท่านั้น รวมไปถึงการเอาวัสดุซับเสียงและกันความร้อนออกไปบางส่วนเพื่อลดน้ำหนักที่ไม่จำเป็น และยังมาพร้อม Sport Chrono package ที่ติดตั้งนาฬิกาจับเวลาแบบเข็มมาให้ด้วย โดยรวมแล้วทำให้ Turbo GT พร้อม Weissach track package มีน้ำหนักน้อยกว่า Turbo S อยู่ 70 กิโลกรัม

 

ช่วงล่างแบบพิเศษ Active Ride ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานซึ่งถูกปรับแต่งโดยเฉพาะสำหรับรุ่น Turbo GT ทำงานร่วมกันกับระบบเบรกประสิทธิภาพสูง มาพร้อมจานเบรกแบบคาร์บอนเซรามิค Porsche Ceramic Composite Brake (PCCB) ล้ออัลลอยน้ำหนักเบากว่ารุ่น Turbo S ที่รัดด้วยยาง Pirelli P Zero Trofeo R ขนาด 21 นิ้ว เพื่อให้ Taycan GT กลายเป็นรถที่พร้อมลงสนามแข่งได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด ในรุ่นตกแต่งพิเศษ Weissach มาพร้อมชุดแต่งหางหลังทรง GT Wing แบบตายตัวที่สามารถสร้างแรงกดมากถึง 220 กิโลกรัม

 

สำหรับข้อมูลด้านขุมพลังของ Taycan Turbo GT มีการใช้ชิ้นส่วนทางเทคนิคใหม่หมดจดหลายจุด โดยเฉพาะมอเตอร์และอินเวอร์เตอร์ ในส่วนของมอเตอร์ที่ให้พละกำลังสูงสุด 789 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 1,340 นิวตัน-เมตร และจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,034 แรงม้า (PS) เมื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่น Attack Mode ผ่านแป้น Paddle shift ในระยะเวลาชั่วคราวเป็นนาน 10 วินาที พร้อมด้วยการปรับแต่งช่วงล่างของตัวรถให้รองรับการขับขี่ในสนามแข่ง และยังสามารถเพิ่มขึ้นเป็น 1,108 แรงม้า (PS) เป็นระยะเวลาสั้นๆ 2 วินาที สำหรับช่วง overboost

สำหรับอินเวอร์เตอร์แบบ pulse inverter ที่เปลี่ยนวัสดุภายในมาใช้เป็นซิลิคอนคาร์ไบด์แทน ทำให้สามารถส่งผ่านกระแสไฟฟ้าได้สูงสุดกว่า 900 A มากกว่าของ Turbo S ที่ 600 A เมื่อรวมกับมอเตอร์ชุดใหม่ทำให้น้ำหนักของชุดขับเคลื่อนลดลงอีก 9 กิโลกรัม

  • อัตราเร่งจาก 0-100 กม. / ชม. ภายในเวลา 2.2 วินาที (2.2 วินาที เมื่อติดตั้ง Weissach track package)
  • อัตราเร่งจาก 0-200 กม. / ชม. ภายในเวลา 6.6 วินาที (6.4 วินาที เมื่อติดตั้ง Weissach track package)
  • ความเร็วสูงสุด 290 กม. / ชม. (305 กม. / ชม. เมื่อติดตั้ง Weissach track package)

ภายในเลือกใช้วัสดุสำหรับรถแข่งโดยเฉพาะที่เรียกว่าหนัง Race-tex และสามารถเลือกติดตั้งเบาะนั่งที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ได้สำหรับตลาดยุโรป เนื่องจากไม่สามารถผ่านมาตรการการทดสอบการชนในอเมริกาเหนือได้ โดยเบาะนั่งมาตรฐานจะเป็นรุ่น adaptive Sports Seats Plus ที่ปรับได้ด้วยไฟฟ้า 18 ทิศทาง พร้อมหน่วยความจำ และหัวหมอนโลโก้ Turbo GT

 

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ Porsche ได้นำ Turbo GT ที่ติดตั้ง Weissach track package ลงทำเวลาต่อรอบในสนามWeatherTech Raceway Laguna Seca จนสามารถจบได้ภายในเวลาเพียง 1:27.87 นาที เร็วกว่ารถ EV ทุกรุ่นที่เคยผ่านสนามนี้มา และไฮไลท์อย่างสนาม Nurburgring ก็สามารถทำเวลาต่อรอบได้เพียง 7:07.55 นาที เร็วกว่ารถซีดานโปรดักชั่นคาร์ทุกรุ่น

 

Porsche Taycan Turbo GT เปิดราคาจำหน่ายที่ 231,995 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 8,238,026 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้า และสามารถเลือกติดตั้ง Weissach package โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม ก่อนที่ Porsche จะพร้อมส่งมอบให้ลูกค้าชาวสหรัฐฯในช่วงฤดูร้อนปี 2024 นี้

ที่มา: Motor1