ยอดขายรถในสหรัฐอเมริกากำลังสะท้อนสถานการณ์ยอดขายรถยนต์ขุมพลัง Hybrid ที่กลับมาได้รับความนิยมอย่างล้นหลามนับตั้งแต่ข้ามศักราชปี 2024 โดยเฉพาะยอดขายในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของยอดขายรถ Hybrid จาก 3 ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota Honda และ Ford ที่มีทางเลือกรถยนต์ขุมพลัง Hybrid จำนวนมาก

เมื่อพิจารณายอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของสหรัฐฯนับตั้งแต่ปี 2024 จะพบว่า ยอดขายของเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์รวมกันเป็นจำนวน 1.3 ล้านคัน คิดเป็นอัตราส่วนการเติบโตที่ 10.7% เมื่อเทียบกับ 2 เดือนเดียวกันของปี 2023 ทั้ง 2 เดือนนี้แสดงให้เห็นถึงยอดขายของรถกลุ่ม Hybrid ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมด้วยการกลับมาเดินสายพานการผลิตเพื่อเติมสต๊อครถในมือของแต่ละค่ายอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง

 

หากพิจารณาเพียงยอดขายจากเดือนกุมภาพันธ์เพียงอย่างเดียว จะพบว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นจากปี 2023 เป็นอัตราส่วน 9.2% มากกว่าตัวเลขที่คาดการณ์เอาไว้ที่ 5.6-6.3% อ้างอิงจากสำนัก J.D. Power GlobalData Cox Automotive และ S&P Global Mobility

ยิ่งไปกว่านั้นสำนักข่าว Automotive News ยังได้อ้างถึงแคมเปญส่งเสริมการขายต่างๆ จากตัวแทนจำหน่ายจนทำให้ยอดขายรถรายวันในสหรัฐฯพุ่งทะยานสู่ตัวเลข 50,000 คันในเดือนกุมภาพันธ์ และ 42,400 คัน ในเดือนมกราคม 2024 ที่ผ่านมา นับว่าเป็นสัญญาณดีของยอดขายรถยนต์ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 19

 

Honda และ Toyota ที่มีภาพลักษณ์ชัดเจนในการชูจุดเด่นของขุมพลัง Hybrid ของตน จนทำให้ยอดขายของทั้ง 2 ค่าย เพิ่มขึ้นกว่า 32% และ 16% ตามลำดับ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ขณะที่รถยนต์แห่งชาติอย่าง Ford ก็มีอัตราส่วนยอดขายเพิ่มขึ้น 11% จนทำให้สามารถก้าวขึ้นมาหัวตารางได้สำเร็จ

 

เบื้องหลังความสำเร็จดังกล่าวล้วนแล้วแต่เกิดจากยอดขายของรถยนต์ขุมพลัง Hybrid โดยเฉพาะ Toyota ที่รายงานการเติบโตของรถกลุ่มนี้กว่า 84% ซึ่งมีหัวหอกหลักสำคัญเป็น Prius ที่เฉพาะอัตราส่วนการเติบโตยอดขายของรุ่นนี้ก็สูงถึง 363% เพิ่มเติมจาก RAV4 ที่สร้างยอดขายหลักของขุมพลัง Hybrid มาแต่เดิม ขณะที่ Ford ก็มีอัตราส่วนเพิ่มขึ้นของรถกลุ่มนี้ถึง 32% โดยเฉพาะ Maverick ที่ได้รับความนำยมอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: Carscoops