เครือ Stellantis เดินหน้าเปิดตัวรถจากหลากหลายค่ายทั้งขุมพลัง hybrid และ EV โดยเฉพาะตัวถัง crossover ขนาดเล็กที่กำลังได้รับความนิยมในภูมิภาคยุโรป หลังจาก Citroen Peugeot Lancia ได้เปิดตัวไปก่อนหน้า จึงเป็นคิวของ Alfa Romeo รุ่นน้องเล็กสุดท้องอย่าง Milano ที่ใช้งานวิศวกรรมพื้นฐาน STLA Small (e-CMP2) platform ร่วมกันกับ Jeep Avenger และ Fiat 600e และมีให้เลือกทั้ง 2 รูปแบบขุมพลังดังกล่าว

 

งานออกแบบภายนอกที่มีความแปลกตาตั้งแต่แรกเริ่ม โดยเฉพาะกระจังหน้าที่สร้างความแปลกใหม่ มาพร้อมดีไซน์ 2 รูปแบบ ที่แตกต่างกันระหว่างรุ่น hybrid และ EV โดยในรุ่นแรกจะเลือกใช้กระจังแบบคลาสสิค ขณะที่รุ่น EV จะมาพร้อมกระจังหน้าแบบเจาะรูตามรูปแบบโลโก้งูกินเด็ก ในส่วนของไฟหน้าที่เลือกใช้เป็นแบบ 3 ดวงเล็กภายใน พร้อมเส้นสายด้านข้างที่ออกแบบให้ตัวรถมีความเป็น Alfa Romeo มากที่สุด ด้วยมือเปิดประตูหลังแบบซ่อนไว้ที่เสา C

 

ภายในมาพร้อมหน้าจอคู่ขนาดอย่างละ 10.25 นิ้ว ทำหน้าที่เป็นจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่และหน้าจอกลางสำหรับการเชื่อมต่ออย่างครบครัน โดยจะยังติดตั้งปุ่มควบคุมแบบทั่วไปมาให้เพื่อมอบความสะดวกสบายในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมาพร้อมห้องเก็บสัมภาระความจุ 400 ลิตร ถึงแม้ตัวถังจะมีความยาวเพียงแค่ 3,962 มิลลิเมตร เท่านั้น ทั้งหมดนี้จะเหมือนกันสำหรับรุ่น hybrid และ EV

 

สำหรับรุ่น EV ที่ Alfa Romeo เรียกว่า ELETTRICA มีเลือกใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ความจุ 54 kWh เมื่อชาร์จแบตเตอรี่ 100% จะสามารถวิ่งได้ไกลสุดกว่า 384 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP

 

อย่างไรก็ตามยังมีรุ่นสมรรถนะสูง Veloce ที่อัพเกรดพละกำลังเป็น 240 แรงม้า พร้อมด้วยการอัพเกรดช่วงล่างด้านหน้าและหลัง ด้วยเหล็กกันโคลงและโช้คอัพแบบพิเศษ พร้อมด้วยการอัพเกรดระบบเบรกและติดตั้ง differential แบบกลไกเพื่อควบคุมการกระจายแรงบิดระหว่างล้อทั้ง 2 ข้าง ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว

ทั้ง 2 รุ่นสามารถชาร์จไวด้วยกระแสไฟฟ้าตรง DC ด้วยกำลังไฟฟ้าสูงสุด 100 kW โดยจะใช้เวลาเพียง 30 นาที ในการประจุไฟฟ้าจาก 10%-80%

 

สำหรับเวอร์ชั่น hybrid หรือรุ่น IBRIDA จะเลือกใช้ขุมพลังเบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.2 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 28 แรงม้า ขนาดย่อมในรูปแบบ mild-hybrid ด้วยแบตเตอรี่แรงดัน 48V เหมือนกับรถแบรนด์ Peugeot และ Opel รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบัน

ที่มา: Motor1