หลังจากที่ Toyota ได้เปิดตัว GR Yaris GRMN ในเวอร์ชั่นอัพเกรดสมรรถนะให้สูงขึ้น ทำให้รถ Hot Hatch รุ่นนี้ มีพละกำลังและแรงบิดเพิ่มขึ้น โดยยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.6 ลิตร บล๊อคเดิม ที่ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผ่านสนามแข่งทั้งทางเรียบและทางฝุ่นมาแล้วมากมาย นับว่าเป็นการพิสูจน์สมรรถนะและประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เล็กพริกขี้หนูบล๊อคนี้ได้เป็นอย่างดี 

สำหรับใครที่กำลังมองหาเวอร์ชั่น GRMN ของรุ่นพี่อย่าง GR Corolla ต้องขอบอกว่ามีลุ้นให้ได้จับจองกันเร็วๆ นี้ เมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา Toyota เผยรูปตัวรถที่เคลมว่าได้รับการปรับแต่งสมรรถนะให้สูงขึ้น แต่ยังคงพรางตัวและขออุบข้อมูลทางเทคนิคเอาไว้ก่อน มีเพียงรายละเอียดตัวถังที่คาดเดาได้จากเส้นสายที่เปลี่ยนไปจาก GR Corolla ปกติ

 

นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นทีเด็ดเอาใจขาซิ่ง JDM ที่ทำให้ตัวรถโดดเด่นยิ่งขึ้น อย่างช่องดักลมบริเวณฝากระโปรงหน้าและบริเวณซุ้มล้อคู่หน้า ที่เหมือนกับรถทดสอบคันที่โดนถ่าย spyshots ที่สนามแข่งระดับโลกอย่าง Nürburgring เมื่อเดือนกันยายน 2024 

ชุดแต่งตัวถังที่ทำให้ตัวรถโดดเด่นเมื่อมองจากทางด้านหลัง ได้แก่ สปอยเลอร์ขนาดใหญ่ ที่เสริมภาพลักษณ์ตัวแรงให้ดุดันมากขึ้น ขณะที่ด้านข้างยังคงเลือกใช้ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ลายเดียวกันกับเวอร์ชั่นปกติ โดยยังคงใช้บริการแบรนด์ยอดฮิตอย่าง BBS ที่เป็นล้ออัลลอยน้ำหนักเบาแบบ forged รัดด้วยยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 ขนาด 245/40 ZR18 ที่เคยใส่มาให้ในเวอร์ชั่น Morizo Edition ก่อนหน้านี้

 

สำหรับรายละเอียดภายในห้องโดยสารที่ยังไม่ถูกเปิดเผยในขณะนี้ แค่คาดว่าจะใช้งานออกแบบเช่นเดียวกับรุ่นปัจจุบัน Toyota ยังได้เผยข้อมูลการอัพเกรดเพิ่มเติมด้านขุมพลังเบนซิน 1.6 ลิตร ที่อาจได้รับการอัพเกรดให้มีแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้น และมีการปรับแต่งโปรแกรมกล่อง ECU มาโดยเฉพาะ 

 

GR Corolla รุ่นต้นแบบนี้เตรียมไปอวดโฉมครั้งแรกในงาน Formula Drift ที่ลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 12–13 เมษายนนี้ โดยรถคันนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดย Gazoo Racing ทีมแข่งของ Toyota และหลังจากจบงานโชว์ตัว ก็จะมีการทดสอบเพิ่มเติม ก่อนจะส่งไม้ต่อให้ Akio Toyoda ประธานบอร์ดของ Toyota ได้ลองขับด้วยตัวเอง พร้อมรับคำแนะนำไปปรับปรุงก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

สื่อต้นทางคาดว่า GR Corolla GRMN อาจจะมีราคาสูงกว่าเวอร์ชั่น Circuit Edition ซึ่งเริ่มต้นที่ 46,275 ดอลลาร์สหรัฐ และอาจแพงกว่ารุ่น Morizo ที่ตั้งไว้ที่ 51,420 ดอลลาร์สหรัฐ ก็เป็นได้

ที่มา: Motor1