Skoda Elroq รถครอสโอเวอร์ขุมพลังไฟฟ้าล้วนที่เปิดตัวไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 ในฐานะ Model Year 2025 ก่อนที่จะเริ่มส่งมอบเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Skoda ก็ไม่รอช้ารีบส่งเวอร์ชั่นตัวแรงตามหลังกันมาติดๆ โดยหนีไม่พ้นรหัส RS ที่จะมาพร้อมสีตัวถังสีเขียว “Mamba Green” สุดแสบสัน เป็นเอกลักษณ์มาตั้งแต่ Fabia RS อันเลื่องชื่อเมื่อ 10 ปี ก่อน
Elroq RS ยังคงใช้งานวิศวกรรมพื้นฐาน MEB Platform ร่วมกันกับรถในเครือ Volkswagen group รุ่นอื่นๆ ที่ใช้ขุมพลังไฟฟ้าล้วน โดย Skoda เลือกใช้เวทีงาน Milan Design Week ในการเปิดตัวต่อสายตาสาธารณชนชาวยุโรป



ดีไซน์ภายนอกของ Elroq RS โดดเด่นด้วยเส้นสายสปอร์ตอันเฉียบคม เพิ่มเติมความดุดันด้วยกันชนหน้าที่ปรับใหม่ให้ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น พร้อมครีบรีดอากาศใต้ไฟหน้า พร้อมตกแต่งด้วยสีดำเงารอบคันทั้งกระจกมองข้าง ราวหลังคา ขอบหน้าต่างและโลโก้ Skoda ที่ด้านท้าย ที่เปลี่ยนไปใช้สีดำ นอกจากนี้ยังมีแถบสะท้อนแสงคาดเต็มตามความกว้างด้านหลัง มาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่หมดจดเน้นอากาศพลศาสตร์ขนาด 20 หรือ 21 นิ้ว


ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุหนังกลับเทียมสีดำตัดกับลายคาร์บอนไฟเบอร์เพิ่มความสปอร์ต พร้อมดว้ยการเดินด้ายตะเข็บตกแต่งสีเขียวไลม์ เบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มด้วยหนังและหนังกลับเทียม พวงมาลัยท้ายตัด 3 ก้านพร้อมปุ่มควบคุมและ Paddle Shifter สำหรับปรับระดับแรงระบบเบรกแบบ Regenerative
ทันสมัยด้วยหน้าจอสำหรับผู้ขับขี่แบบ Digital ขนาด 5 นิ้ว และหน้าจอ Infotainment ขนาด 13 นิ้ว กลางคอนโซลที่ให้ประสบการณ์การใช้งานล้ำสมัย นอกจากนี้ยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานระดับพรีเมียม เช่น ไฟหน้า Matrix LED ไฟท้าย LED แบบ Dynamic กระจกบังลมลดเสียงรบกวน เบาะคนขับปรับไฟฟ้าพร้อมระบบนวดและบันทึกตำแหน่ง ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า และระบบกุญแจอัจฉริยะ Keyless Advanced ที่ปลดล็อคอัตโนมัติเมื่อเดินเข้าใกล้



นอกจากนี้ยังมีออพชันเพิ่มเติมให้เลือกทั้งระบบช่วงล่างแบบ Adaptive Chassis Control ระบบเครื่องเสียงจาก Canton 675 วัตต์แบบ 12 ลำโพง ระบบปรับอากาศแยก 3 โซน เบาะผู้โดยสารด้านหน้าพร้อมฟังก์ชันนวดและบันทึกความจำ รวมถึงม่านบังแดดสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
สำหรับระบบความปลอดภัยก็ครบครันด้วยระบบช่วยขับขี่สมัยใหม่ ได้แก่ ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลนแบบแปรผัน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบช่วยขับในภาวะรถติด (Traffic Jam Assist) และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)



ขุมพลังไฟฟ้าล้วนของ Elroq RS ใช้ร่วมกันกับ Volkswagen ID.4 GTX ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ แยกขับเคลื่อนล้อหน้าและล้อหลัง ให้พละกำลังรวม 335 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 679 นิวตัน-เมตร ถึงแม้จะมีน้ำหนักตัวระหว่าง 2,229–2,342 กิโลกรัม แต่ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อทำให้ Elroq RS สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 5.4 วินาที เร็วกว่า Elroq รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังถึง 1.2 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 180 กม./ชม.
Elroq RS ใช้แบตเตอรี่ขนาด 79 kWh (ความจุสุทธิ) ที่สามารถวิ่งได้ไกลถึง 572 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP พร้อมอัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้าอยู่ที่ 15.9 kWh/100 กม. รองรับการชาร์จไฟแบบ AC สูงสุดที่ 11 kW และชาร์จเร็วแบบ DC ได้สูงสุด 185 kW
ด้านระบบเบรกเลือกใช้ใช้ดิสก์เบรกคู่หน้าพร้อมคาลิปเปอร์แบบ 2 ลูกสูบ ในขณะที่ด้านหลังยังคงใช้ดรัมเบรก ซึ่งถือเป็นความแปลกของรถที่ใช้แพลตฟอร์ม MEB ในกลุ่ม Volkswagen อีกทั้งช่วงล่างยังได้รับการปรับจูนใหม่ให้เหมาะกับการขับขี่แบบสปอร์ตมากขึ้น โดยลดระดับความสูงจากพื้นลงอีก 16 มิลลิเมตร เหลือระยะห่างใต้ท้องรถเพียง 170 มิลลิเมตร ช่วยให้การเกาะถนนและสมรรถนะโดยรวมดีขึ้น


โดยรวมแล้ว Skoda Elroq RS ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความแรง ความสปอร์ต และเทคโนโลยีล้ำสมัยในรูปแบบรถครอสโอเวอร์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ทั้งสายขับสนุกและคนที่มองหาความสะดวกสบายในการใช้งานทุกวัน มีกำหนดการวางจำหน่ายในยุโรปภายในปี 2026 นี้
ที่มา: Carexpert